ตร.ส่งคลิปคดีเด็ก 18 ถูกลวนลาม ให้กองพิสูจน์ตรวจความถูกต้อง คดี "ปริญญ์"
ตำรวจส่งภาพคลิปวิดิโอ คดีเด็ก 18 ถูกลวนลาม ให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบความถูกต้อง-ดัดแปลงหรือไม่ ระบุสอบพยานให้การเป็นประโยชน์รูปคดี ขณะที่คดีอื่นๆเร่งหาหลักฐาน แจงยังอยู่ในอายุความ ชี้ยังไม่พบพยานหลักฐาน ตำรวจยศ “พ.ต.อ.” - ผู้ต้องหา เจรจาผู้เสียหายยุติคดี มีเพียงคำกล่าวอ้าง หากมีพยานหลักฐานเตรียมยื่นศาลเพิกถอนประกันตัวได้
วันที่ 18 เมษายน 2565 ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าคดีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดีกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี 2 คดี และคดีข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี รวม 3 คดี ในพื้นที่ สน.ลุมพินี ภายหลังเข้าประชุมคดีดังกล่าว ว่า สำหรับคดีทั้งหมด อยู่ในพื้นที่สน. ลุมพินี 3 คดี และ สภ.เมืองเพชรบุรี 1 คดี ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายแจ้งความที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นได้รับรายงานแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ไม่สามารถนำคดีต่างๆ มารวมกันได้ เพราะผู้เสียหาย รวมถึงวันเวลาที่เกิดเหตุ แตกต่างกัน ไม่ใช่คดีที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง
พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยอีกว่า คดีแรกที่ผู้เสียหายอายุ 18 ปี เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมานั้น สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้พอสมควร ขณะนี้ได้ส่งภาพจากคลิปวิดิโอให้กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบ ว่ามีความถูกต้อง รวมถึงผ่านการดัดแปลงหรือไม่ โดยขณะนี้ทำการสอบพยานไปหลายปาก และในเบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ตำรวจก็พยายามเต็มที่ในการหาหลักฐาน และถือว่าคดียังอยู่ในอายุความ
พล.ต.ต.ไตรรงค์ เผยอีกว่า ส่วนการยื่นประกันตัวของผู้ต้องหา หากพบว่ามีการกระทำที่ผิดเงื่อนไข ตำรวจก็จะยื่นเรื่องต่อพนักงานอัยการให้เพิกถอนการประกันตัวได้ อย่างไรก็ตาม ต้องมีพยานบุคคลหรือวัตถุพยานที่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ต้องหากระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวจริง
“ส่วนผู้เสียหายที่จะเดินทางมาในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ได้รับรายงานจาก ผกก.สน.ลุมพินี รวมถึงได้เตรียมคณะพนักงานสอบสวนไว้แล้ว ส่วนการรวมคดีให้ บช.น. เป็นผู้ดำเนินการเพียงหน่วยงานเดียวกันนั้น ไม่สามารถทำได้ แต่ในกรณีที่ผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความที่ สน.ลุมพินี แต่เหตุเกิดในพื้นที่อื่น ก็จะประสานส่งเรื่องต่อไปให้ ยืนยันว่าตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน เมื่อมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีและพบความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่”
พล.ต.ต.ไตรรงค์ เผยอีกว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีข้าราชการยศ พ.ต.อ. และ ตัวผู้ต้องหาเอง พยายามเจรจากับผู้เสียหายเพื่อให้ยุติบทบาททางคดี ซึ่งอาจผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลนั้น ขณะนี้ยังไม่พบพยานหลักฐานที่ชัดเจน มีเพียงคำกล่าวอ้างและกระแสข่าวเท่านั้น แต่หากมีพยานหลักฐานมายืนยันในภายหลัง ตำรวจก็พร้อมที่จะไปยื่นให้ศาลให้เพิกถอนการประกันตัวได้ ทั้งนี้ จากการสืบสวนของตำรวจยังไม่พบว่ามีการทำลายพยานหลักฐาน โดยกลุ่มผู้ต้องหามีเพียงพยานหลักฐานที่หมดอายุการเก็บรักษาตามปกติ อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวสามารถดำเนินการทันกรอบเวลาการส่งสำนวนให้อัยการอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนการรวมโทษทางคดีนั้น ศาลจะพิจารณาตามแต่ละคดี เพราะเป็นคดีต่างกรรมต่างวาระ โดยจะรวมโทษหรือไม่อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล โดยพนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมหลักฐานส่งให้พนักงานอัยการ