"ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป" ปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มุ่งเป้าสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืน
"ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป" นำเทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนธุรกิจ สร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งเป้าสู่การเป็น "Tech Company" ในปี 2567
เทคโนโลยีดิจิทัล ได้ปฏิรูปแนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรต่างๆ ทั่วโลก บริษัทในทุกภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ มีการดำเนินธุรกิจแบบใด ต่างตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีและเริ่มมองหาโซลูชัน เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันครบวงจรด้านโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรมของไทย ได้ประกาศทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่การเป็น Tech Company ภายในปี 2567 และได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลหลักๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) บิ๊กดาต้า ระบบอัตโนมัติ และวิทยาการหุ่นยนต์ ฯลฯ เข้ามาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เสริมศักยภาพ และสร้างความได้เปรียบให้กับลูกค้า รวมไปถึงการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างโอกาสในการเติบโต
ปัจจุบัน ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีโครงการมากมายที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ครอบคลุมธุรกิจของบริษัทฯ ในทุกด้าน อาทิ นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ (Smart ECO Industrial Estates) ซึ่งได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลหลายอย่างเข้ามาประยุกต์ใช้ในทุกกิจกรรม ตั้งแต่การสื่อสาร ระบบขนส่ง การรักษาความปลอดภัย การควบคุมด้านสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการผลิตน้ำและบำบัดน้ำเสีย โครงการกรีน โลจิสติกส์ หรือระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานแบบ Peer-to-Peer ภายใต้ชื่อ RENEX หรือการพัฒนาแอปพลิเคชัน WHAbit เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการและโซลูชันการดูแลสุขภาพ เป็นต้น
ส่วนในภาคการผลิต หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของ "ดับบลิวเอชเอ" หลายแห่ง ต่างก็ต้องพึ่งพาระบบอัตโนมัติและวิทยาการหุ่นยนต์ เห็นได้จากข้อมูลล่าสุดของ International Federation of Robotics ระบุว่า ในปี 2563 ไทยมีการติดตั้งใช้งานหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมเป็นลำดับที่ 13 ของโลก ราวๆ 2,900 ตัว และเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน รองจากประเทศสิงคโปร์ และยังคงมีศักยภาพในการเติบโตและความต้องการหุ่นยนต์ รวมถึงการติดตั้งระบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับแรงงาน การเพิ่มขึ้นของหุ่นยนต์ สามารถส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม และเมื่อมีการพัฒนาและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพิ่มขึ้น ก็ย่อมต้องการแรงงานที่มีทักษะสูงมากขึ้นเช่นกัน
ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับวิทยาการหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และการสร้างบุคลากรคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ความสามารถด้าน AI และหุ่นยนต์ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จึงให้การสนับสนุนการแข่งขัน World RoboCup 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์อีก 17 แห่งของไทยที่ส่งทีมเข้าร่วมประชันความสามารถและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ร่วมกับทีมผู้เข้าแข่งขันจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ อีก 45 ประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ให้การสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง อาทิ Giztix ผู้ให้บริการชั้นนำด้านบริการ E-Logistics หรือ Mercular บริษัทสตาร์ทอัพอีคอมเมิร์ซแนวดิ่ง (Vertical E-Commerce) ของไทยที่เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึง "มั่งมี" ธุรกิจสตาร์ทอัพแบบ B2B ที่มุ่งพลิกโฉมการค้าแบบโชห่วยของไทยให้ทันสมัย
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกจากเราจะเดินหน้าวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เร่งสร้างโมเดลธุรกิจดิจิทัลและนำนวัตกรรมรวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในทุกกลุ่มธุรกิจของ ดับบลิวเอชเอ แล้ว ตอนนี้ยังได้นำมาพัฒนาโลกเสมือนจริง และเตรียมเปิดตัวเมตาเวิร์สนิคมอุตสาหกรรม และเมตาเวิร์สทาวเวอร์ในเร็วๆ นี้
"เรายังพยายามส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานในองค์กรให้มีความไดนามิกและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนวิธีการทำงานแบบดิจิทัล โดยมีเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมไปกับพันธมิตรและลูกค้าของเรา และคว้าโอกาสต่างๆ ร่วมกันเมื่อจังหวะมาถึง โดยรากฐานที่แข็งแกร่งจะทำให้เราสามารถผสานรวมวิทยาการและเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม" นางสาวจรีพร กล่าว
นางสาวจรีพร กล่าวทิ้งท้ายว่า เป้าหมายของการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของ ดับบลิวเอชเอ คือการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่จากผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรม รวมถึงการใช้ข้อมูลเป็นแหล่งสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ตามโรดแมปขององค์กรที่ตั้งเป้าจะเป็นบริษัทเทคโนโลยี (Tech Company) ภายในปี 2567