LONGINES SPIRIT FLYBACK นาฬิกาผู้บุกเบิกฟังก์ชัน Flyback Chronographs
LONGINES SPIRIT FLYBACK นาฬิกาผู้บุกเบิกฟังก์ชัน Flyback Chronographs สืบทอดจิตวิญญาณที่ขับเคลื่อนแบรนด์ลองจินส์ มาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม
คอลเลกชันนาฬิกา Longines Spirit ได้รับการเติมเต็มให้สมบูรณ์แบบขึ้นด้วยนาฬิกาเรือนใหม่ที่มาพร้อมฟังก์ชัน "Flyback" ซึ่งเป็นกลไกที่เชื่อมโยงกับมรดกตกทอดของแบรนด์อย่างแท้จริง ในอดีตลองจินส์เคยสร้างสรรค์โมเดลแรกๆ โดยใส่ฟังก์ชัน Flyback เข้าไปในปี 1925 และยื่นจดสิทธิบัตรในวันที่ 12 มิถุนายน 1936 จากนั้นในวันที่ 16 มิถุนายน 1936 ก็ได้จดสิทธิบัตรเป็นนาฬิกา flyback เรือนแรกของโลก โดยข้อดีพิเศษของฟังก์ชัน Flyback คือช่วยให้นักบินสามารถจับเวลาการบินที่แตกต่างกันได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมอบความสะดวกสบายให้กับภารกิจการสำรวจทางอากาศของของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ นักบุกเบิกระดับตำนานหลายคนยังมอบความไว้วางใจให้ ลองจินส์ เป็นผู้สร้างนาฬิกาในฝันให้กลายเป็นจริง Richard Byrd คือหนึ่งในนักบุกเบิกแถวหน้าที่ได้รับประโยชน์จากทักษะความชำนาญการของแบรนด์ โดยเขาได้ใช้อุปกรณ์บอกเวลาของลองจินส์ และกลายเป็นชายคนแรกที่สามารถบินข้ามขั้วโลกใต้ได้สำเร็จ นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณนักบุกเบิกที่ได้นำทางแบรนด์รูปนาฬิกาทรายติดปีกมานับตั้งแต่แรกเริ่ม
ด้วยมรดกตกทอดนี้เอง Longines Spirit Flyback จึงมีความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย มาพร้อมคาลิเบอร์เอ็กซ์คลูซีฟใหม่ของลองจินส์ที่สามารถต้านทานแรงแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี และยังมาพร้อมซิลิคอน บาลานซ์ สปริง ที่เป็นกลไกขับเคลื่อนนาฬิกาเรือนนี้ ซึ่งช่วยสร้างความแม่นยำถึงขีดสุด และมีกำลังลานสำรองถึง 68 ชั่วโมง ได้รับการรับรองระดับมาตรฐานโครโนมิเตอร์โดยสถาบัน COSC (Contrôle Officiel Suisse des Chronomètres) ฝาหลังตัวเรือนแบบเปลือยช่วยเผยรายละเอียดของกลไก รวมถึงสลักสัญลักษณ์รูปโลกซึ่งเป็นตัวแทนของคอลเลกชัน Longines Spirit และสลักชื่อ Longines Flyback เป็นครั้งแรกของไลน์นาฬิกานี้ด้วย
นาฬิกาเรือนใหม่นี้ยังมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ดีไซน์อันประณีตบรรจงและ FINISHING ที่พิถีพิถันเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการขัดแบบซาติน แมตต์ เนื้อเงา และรายละเอียดการสลักมาพร้อมขอบตัวเรือนเซรามิกสีที่หมุนได้สองทิศทางและมาร์กเกอร์เรืองแสง โดย Longines Spirit Flybcak มีหน้าปัดให้เลือกสรรด้วยกันสองสีคือ สีดำ และสีน้ำเงินซันเรย์ ส่วนเข็มนาฬิกาเฉดสีบรอนซ์และตัวเลขบนหน้าปัดนั้นเคลือบด้วยสาร Super-LumiNova® ที่ช่วยให้สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างง่ายดายในทุกสถานการณ์ ตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 42 มม. มาพร้อมสายรัดข้อมือที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ทั้งสายสแตนเลสสตีล สายหนังสีน้ำตาล หรือสายผ้าสีน้ำเงิน โดยสายรัดข้อมือมาพร้อมกลไกการปิดด้วยระบบ Micro-adjustment รูปแบบใหม่เพื่อการสวมใส่ที่สบายถึงขีดสุด และนอกจากนี้ยังสามารถเลือกสายนาโตสีเบจได้ด้วย
The Flyback function
Flyback คือฟังก์ชันที่เสริมเข้ามาในนาฬิการะบบโครโนกราฟที่จะช่วยในเรื่องของการจับเวลาและความเร็ว เพียงการกดปุ่ม Pusher ด้านข้างตัวเรือนก็จะช่วยรีเซ็ตเข็มให้เป็นศูนย์และเริ่มจับเวลาเหตุการณ์ใหม่ได้ในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องหยุดหรือรีสตาร์ทเข็ม Chronograph โดยเป็นการควบคุมการทำงาน 3 ขั้นตอน (หยุด, รีเซ็ต และรีสตาร์ท) ได้ด้วยเพียง Pusher ปุ่มเดียว ซึ่งแตกต่างจากนาฬิกาโครโนกราฟแบบมาตรฐานธรรมดาทั่วไปที่จะต้องฟังก์ชันการกดหยุดและรีเซ็ตเพื่อเปิดใช้งานก่อนรีสตาร์ทฟังก์ชันการจับเวลา
Richard Byrd ชายคนแรกของโลกที่ทำการบินข้ามขั้วโลกใต้ได้สำเร็จ
ปี 1928 นักบินและทหารอากาศชาวอเมริกันนามว่า Richard Byrd เริ่มต้นภารกิจแรกในการสำรวจทวีปแอนตาร์กติกา และต่อมาในวันที่ 29 พฤศจิกายน ปี 1929 Richard และลูกเรือได้บังคับเครื่องบิน Ford Trimotor จากฐานทัพ "Little America" เพื่อทำภารกิจบินข้ามขั้วโลกใต้ โดยใช้ระยะทางประมาณ 1,290 กิโลเมตร เพื่อให้ถึงจุดหมาย และมีอุปกรณ์ช่วยเหลือคือเข็มชี้ทิศของดวงอาทิตย์ และนาฬิกาของลองจินส์ Richard คือชายคนแรกที่ปฏิบัติภารกิจนี้ได้สำเร็จหลังจากการบินอันเสี่ยงภัยยาวนานเกือบ 19 ชั่วโมง
ในช่วงท้ายของภารกิจ ลองจินส์ ได้รับวิทยุโทรเลขว่า อุปกรณ์บอกเวลาและนาฬิกาโครโนมิเตอร์ของลองจินส์ ที่ส่งมาจาก Wittnauer Company New York นั้นทำงานได้อย่างน่าพึงพอใจมาก ด้วยความซาบซึ้งอย่างสุดหัวใจ จาก Byrd Antarctic expedition
หลังจากนั้น Richard ก็ได้ปฏิบัติภารกิจการสำรวจในทวีปแอนตาร์กติกาอีก 3 ครั้ง ซึ่งรวมถึงภารกิจหนึ่งในปี 1939 โดยเขาได้สวมนาฬิกา Longines 13ZN ที่มาพร้อมฟังก์ชัน Flyback
นาฬิการุ่นไอคอนิกของลองจินส์ที่มาพร้อมฟังก์ชัน flyback