ล้อพูนผลไรซ์มิลล์ ขยายธุรกิจน้ำมันรำข้าว เล็งสร้างรายได้ปีนี้ถึง 1,500 ล้านบาท
"ล้อพูนผลไรซ์มิลล์" ส่งออกได้กว่า 1,000 ล้านบาท เล็งขยายธุรกิจน้ำมันรำข้าว เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ คาดสร้างรายได้มากกว่า 1,500 ล้านบาท ในปีนี้
นายถวิล ล้อพูนผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ล้อพูนผลไรซ์มิลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารครบวงจร ภายใต้แบรนด์ "บัวชมพู" เปิดเผยว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา ได้จัดตั้งบริษัท แอลพีพี ไรซ์ บราน ออยล์ จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่าย น้ำมันรำข้าว ส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดส่งออกน้ำมันรำข้าวรวม 6,880 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 53.35% ของยอดส่งออกน้ำมันรำข้าวโดยรวม ที่มีการส่งออก 12,895 ตัน
ทั้งนี้ ตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าว ในหลายประเทศมีความต้องการเพิ่มขึ้น สำหรับปี 2566 นี้บริษัทฯ มีแผนขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีการส่งออกเพิ่มขึ้นอีก 50% หรือมียอดขาย 1,500 ล้านบาท พร้อมมีแผนพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จากข้าวออกมาอย่างต่อเนื่องภายในปีนี้
"น้ำมันรำข้าว ถือเป็นการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ข้าว ซึ่งในต่างประเทศนิยมบริโภคน้ำมันรำข้าวอย่างมาก เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีไลฟ์สไตล์ในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพแบบองค์รวม" นายถวิล กล่าว
ทั้งนี้ จากการศึกษาตลาดผู้บริโภคในต่างประเทศที่นิยมบริโภค น้ำมันรำข้าว เนื่องจากมีสารอาหารหลายชนิด เช่น โปรตีน วิตามิน ใยอาหาร รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด โดยเฉพาะสารแกมมาโอรีซานอลที่ประกอบด้วย กรดไขมันดีต่อร่างกายสูงถึงร้อยละ 50 ผู้บริโภคจึงนำน้ำมันรำข้าวมาประยุกต์ใช้เป็นเมนูเพื่อสุขภาพทั้งการ ผัด ทอด หรือใช้เป็นน้ำสลัด เป็นต้น
สำหรับโรงงานสกัดน้ำมันรำข้าวของบริษัท แอลพีพี ไรซ์ บราน ออยล์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรี มีกำลังการผลิต 300 ตันต่อวัน ถือเป็นการต่อยอดจากธุรกิจโรงสีข้าวของบริษัท ล้อพูนผลไรซ์มิลล์ ที่ดำเนินการมากว่า 20 ปี มีเครือข่ายโรงสีข้าวอยู่ทั่วประเทศ ทำให้สามารถคัดสรรรำข้าวที่มีคุณภาพดีสดใหม่ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิต พร้อมมีระบบขนส่งรถพ่วงกว่า 100 คัน ทำให้สามารถขนส่งหรือรับวัตถุดิบได้อย่างรวดเร็ว ช่วยรักษาความสดใหม่ของรำข้าวที่นำมาสกัดเป็นน้ำมันรำข้าวได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยห้องตรวจสอบและเครื่องจักรที่ทันสมัยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล