นักกอล์ฟเตรียมออกรอบชิงรางวัลใหญ่ โฮลอินวัน สนามซัมมิทกรีนวัลเล่ย์ฯ

ที่สนามกอล์ฟซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ แม่ริม เชียงใหม่ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ ซัมมิท โฮล-อิน-วัน บิ๊ก ไพร้ซ์ (Summit Hole-In-One Big Prize 2566 – 2567)

นายณรงค์ฤทธิ์ สุขไชยปราการ ผู้จัดการทั่วไปของสนามกอล์ฟซัมมิท กรีน วัลเล่ย์ กล่าวว่า ทางสนามได้ร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย เช่น สายการบิน เวียตเจ็ท, นิสสัน, อีซูซุ, นวกิจ ประกันภัย, 3K แบตเตอรี่, โรงแรมเมอเว่นพิคเชียงใหม่, เบทาโกร ฯลฯ

ในการจัดเตรียมงบประมาณไว้กว่า 24 ล้านบาท ตลอดปี 2566 – 2567 เพื่อจัดสรรเป็นรางวัลสำหรับนักกอล์ฟที่สามารถตีโฮล-อิน-วันได้ทั้งประเภทบุคคลทั่วไป และประเภททัวร์นาเม้นท์หรือการจัดการแข่งขัน

เพื่อเป็นการส่งเสริมกีฬากอล์ฟและการท่องเที่ยวเพื่อทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นหมุดหมายของการเล่นกีฬากอล์ฟของประเทศไทยและในระดับภูมิภาค

โดยเฉพาะขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวมูลค่าสูง ที่จะมีการใช้จ่ายในสนามกอล์ฟไม่ต่ำกว่า 4,000 - 6,000 บาทต่อวัน ซึ่งจะทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดี ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนเชื่อมต่อ ECO SYSTEM ด้านการผลิต การบริการและผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในท้องถิ่น จังหวัดใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี

สำหรับรางวัลโฮล-อิน-วัน เริ่มต้นที่จำนวนมูลค่ารางวัลรวม 25,000 บาท ที่ทางพันธมิตรธุรกิจได้ร่วมกันมอบผลิตภัณฑ์และเงินสดแก่นักกอล์ฟทั่วไป ที่สามารถตีโฮล-อิน-วัน ได้ทุกวัน (ยกเว้นนักกอล์ฟระดับโปรกอล์ฟ) ทั้งประเภทบุคคลทั่วไปและแบบหมู่คณะ

โดยรางวัลจะเริ่มต้นที่จำนวนของนักกอล์ฟ 70 - 90 คน จะได้รางวัลเป็นรถมอเตอร์ไซค์มูลค่า 50,000 – 100,000 บาท

และจำนวนนักกอล์ฟตั้งแต่ 120 คน จะได้รับรางวัลเป็นรถยนต์มูลค่าเริ่มต้นที่ 500,000 บาท จนถึงการแข่งขันที่มีนักกอล์ฟ 220 คนขึ้นไป จะได้รับรางวัลโฮล-อิน-วัน ด้วยรถมูลค่าสูงกว่า 1,250,000 บาท (ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางสนามกอล์ฟซัมมิทฯ กำหนด)

อีกทั้งเพิ่มเติมด้วยรางวัลการตีไกล - ในวงกริฟ 10,000 - 15,000 บาท เพื่อเพิ่มสีสันและความสนุกสนานของการแข่งขันเป็นหมู่คณะอีกด้วย

นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ผู้บริหารระดับสูง บ.สยามนิสสันเชียงใหม่ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมขับเคลื่อนกีฬากอล์ฟของจังหวัดเชียงใหม่ด้วยการร่วมมอบรถยนต์นิสสัน อัลเมร่า รุ่นใหม่ล่าสุด ให้เป็นรางวัล Big Prize

สอดคล้องกับทางสนามฯ ต้องการส่งเสริมให้มีการจัดการแข่งขันของสมาคมชมรมต่างๆ ที่ตั้งใจมาออกรอบแข่งขันเพื่อความสนุกสนานและสร้างความสัมพันธ์อันดีของสมาคมชมรม

และด้วยความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่จัดประชุมสัมมนา ที่พร้อมรองรับทุกความต้องการทุกระดับของการจัดแข่งขันกีฬากอล์ฟ

อีกทั้งเป็นการตอบสนองนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องการส่งเสริมกีฬากอล์ฟให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายของการเดินทางท่องเที่ยวเชิงกีฬาและสุขภาพของประเทศ

ในฐานะที่เป็นประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่ทำงานร่วมกับภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับจังหวัดและจังหวัดประเทศ จึงสนับสนุนความคิดริเริ่มของสนามกอล์ฟซัมมิท, บริษัท นวกิจ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และพันธมิตรธุรกิจทั้ง 20 องค์กรที่ได้ผนึกกำลังกันในการขับเคลื่อนธุรกิจกีฬา

ความร่วมมือกันในครั้งนี้ ถือเป็น นวัตกรรมทางเศรษฐกิจ หรือ Creative Economy เป็นครั้งแรกในวงการกีฬากอล์ฟของจังหวัดเชียงใหม่

นายพัลลพ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาคเหนือ กล่าวว่า สนามกอล์ฟในจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายของนักกีฬากอล์ฟจากทั่วทุกมุมโลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างฤดูหนาวที่จังหวัดเชียงใหม่มีอากาศที่อบอุ่นเหมาะสำหรับนักกีฬากอล์ฟจากกลุ่มประเทศยุโรปและเอเชียตะวันออก อาทิ เกาหลี ญี่ปุ่น ที่ได้เลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายของการเล่นกอล์ฟ

สนามกอล์ฟซัมมิท กรีน วัลเล่ย์ เชียงใหม่ คันทรี คลับ ที่อยู่ห่างจากสนามบินและตัวเมืองเพียงแค่ 30 นาที มีความพร้อมในทุกด้านที่นักกอล์ฟจากนานาชาติและคนไทยต้องการ

จึงเชื่อมั่นว่าโครงการ โฮล-อิน-วิน บิ๊ก ไพร้ซ์ ของสนามซัมมิท กรีน วัลเล่ย์ จะสามารถดึงดูดนักกอล์ฟจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ได้มากขึ้น และจะสามารถกระจายรายได้ไปในธุรกิจด้านอื่นๆ

โดยแต่ละปีจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูนมีรายได้จากธุรกิจสนามกอล์ฟเกือบ 100  ล้านบาท แต่ถ้ามีกิจกรรม ที่เพิ่มขึ้น ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรือเกือบ 200 ล้านบาท

ดร.มณีรัตน์ กออุดม ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าพิเศษและบริการงานตรง ผู้บริหารงานด้านนวัตกรรมสินค้าประกันภัยของ บริษัท นวกิจ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้นักกอล์ฟเล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำประกันภัย เพื่อบริหารความเสี่ยงที่เกิดจากอุบัติเหตุในระหว่างการออกรอบ

รวมถึงสนับสนุนรางวัลรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์สำหรับผู้ที่ตีกอล์ฟโฮล-อิน-วันได้ ในทุกๆ การแข่งขันที่มีผู้เข้าร่วมการตั้งแต่ 70 ถึง 220 คน ตลอดปี 2566 – 2567

นอกจากนี้ บมจ.นวกิจประกันภัย ยังได้ร่วมมอบกรมธรรม์พิเศษคุ้มครองรายวันสำหรับนักกอล์ฟทั้งไทย และต่างชาติ ซึ่งมีความคุ้มครองสำหรับอุปกรณ์การเล่นกอล์ฟ อุบัติเหตุขณะออกรอบของนักกอล์ฟ และต่อบุคคลอื่น

มูลค่าความคุ้มครองสูงถึง 500,000 บาท และรางวัลสำหรับนักกอล์ฟที่สามารถตีโฮล-อิน-วัน ได้ ด้วยเงินรางวัลสูงสุด 15,000 บาท

ในอนาคตจะมีแผนการที่จะร่วมกันจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการมอบความอุ่นใจให้แก่นักกอล์ฟและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า มีความคุ้มครองที่ดีมอบให้โดยทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจประกันภัยกว่า 90 ปี.