TiHTA นำคณะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกัญชงไทย ศึกษาดูงานกัญชงที่ญี่ปุ่น
TiHTA นำคณะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกัญชงไทย ลุยตลาดญี่ปุ่น เชื่อมพันธมิตรตลาดกัญชงคุณภาพ ร่วมกันสร้างมูลค่าพืชเศรษฐกิจของเอเชีย
ถึงแม้ข้อถกเถียงด้าน กัญชาเสรี ยังมีความกระท่อนกระแท่นในประเทศไทย ทั้งกฎระเบียบการเข้าถึงที่ยังคงไม่ชัดเจน พ.ร.บ. เพื่อการบังคับใช้ก็ยังต้องรอเวลาอีกสักพักใหญ่ อีกทั้งช่วงผลัดเปลี่ยนรัฐบาลก็มีกระแสที่จะนำพืชกัญชากลับไปสู่ยาเสพติดอีกครั้ง ก่อให้เกิดความสับสนของประชาชนถึงพืชชนิดนี้
แต่อีกมุมหนึ่งของพืชตระกูลนี้อย่าง กัญชง หรือ Hemp พืชเศรษฐกิจใหม่ที่ยังคงถูกขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน ภาคอุตสาหกรรม ไปจนถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาหลากหลาย รวมกว่า 15 ประเภทอุตสาหกรรม
สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย หรือ TiHTA ในฐานะเสาหลักของกลุ่ม ธุรกิจกัญชง ที่ได้สร้างความเข้าใจและองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงการเดินหน้าทำงานพัฒนาอุตสาหกรรม เชื่อมโยงทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ทั้งในและนอกประเทศ เพื่อตอบโจทย์พันธกิจหลักในการเสริมสร้างมูลค่าให้แก่พืชกัญชงนี้ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายธุรกิจที่มีศักยภาพเพื่อรองรับกลุ่มเกษตรกรต้นน้ำของไทย ซึ่งจากข้อมูลการขออนุญาตของผู้ปลูก ยังคงมีกลุ่มเกษตรกรที่ขออนุญาตปลูกอยู่ถึง 3,508 แห่ง/ราย รวมพื้นที่ถึง 11,348,0802 ตารางเมตร แยกเป็นเฉพาะพืชกัญชงถึง 3,197 แห่ง/ราย รวมพื้นที่ 11,268,227 ตารางเมตร
สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย นำโดย ดร.วีระชัย ณ นคร ประธานกิตติมศักดิ์ นายพรชัย ปัทมินทร นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ ได้รับเกียรติจากนายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ เอกอัครราชทูต ฝ่ายพาณิชย์ และนายกิตติพันธุ์ บางยี่ขัน เอกอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายอุตสาหกรรม ให้เข้าพบ พร้อมได้แนะนำสมาคมฯ ในกิจกรรม Business Meeting - Discussion on Exporting Thailand Hemp&CBD’s Product to Japan and Thailand - Japan cooperation in driving Hemp Industry โดยมีผู้ประกอบการชาวไทยและญี่ปุ่นร่วมกิจกรรมกว่า 80 ราย ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
พร้อมกันนี้ยังเดินทางเข้าศึกษาดูงาน กัญชง ของญี่ปุ่น ซึ่งมีการนำกัญชงมาใช้ในลักษณะวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะด้านเส้นใย เมล็ดพันธุ์ รวมถึงการนำมาสอดแทรกในด้านอุตสาหกรรมต่างๆ ตลอดจนการวางแนวทางที่จะนำ CBD หรือสารสกัดจากพืชกัญชง มาใช้ในทางสุขภาพเช่นกัน โดยครั้งนี้ถือเป็นการสร้างพันธสัญญาความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการญี่ปุ่นและไทยที่มีความตั้งใจจะร่วมกันผลักดันพืชกัญชงสู่ความหลากหลายของเศรษฐกิจชีวภาพ และวางแนวทางการนำเข้า - ส่งออกที่ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง TiHTA และองค์กรพันธมิตรในประเทศญี่ปุ่นอีก 4 ฉบับ ได้แก่
- MAJIC : Manufacturers Association of Japan Industrial Cannabis
- JIHA : Japan Industrial Hemp Association
- HIDO : Japan Hemp Industrial Development Organization
- Asabik K.K.
สำหรับการลงนามในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงหารือแนวทางขับเคลื่อนการค้าระหว่างไทยและญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมกัญชงด้านเส้นใยและสารสำคัญ CBD ในทางการแพทย์ กลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง กลุ่มธุรกิจคาเฟ่ อาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง และอื่นๆ ซึ่งหากอุตสาหกรรมเหล่านี้เดินหน้าได้อย่างเข้มแข็งก็จะส่งผลดีต่อกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกัญชง รวมถึงสร้างแนวทางเพื่อผลิตวัตถุดิบคุณภาพ ตอบโจทย์อุตสาหกรรมในอนาคตอันใกล้ และยังช่วยขับเคลื่อนงาน Asia International Hemp Expo & Forum 2023 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 22 - 25 พฤศจิกายน 2566 นี้ด้วย