'ลอรีอัล กรุ๊ป' ชูงานวิจัยและนวัตกรรมสกินแคร์ ในงานประชุมแพทย์ผิวหนังโลก (WCD 2023)

ลอรีอัล กรุ๊ป (L’Oréal) ในฐานะบริษัทด้านความงามที่ให้ความสำคัญด้านการวิจัย และมีการพัฒนานวัตกรรมที่ปฏิวัติอุตสาหกรรม พร้อมผลักดันความก้าวหน้าด้านสกินแคร์และบิวตี้เทค ล่าสุดได้เผยผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ ในการประชุมแพทย์ผิวหนังโลก (World Congress of Dermatology) ครั้งที่ 25 หรือ WCD 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีแพทย์ผิวหนัง นักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัยทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 11,000 คน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความก้าวหน้าเกี่ยวกับการศึกษาโรคผิวหนัง

L’Oréal Dermatological Beauty หรือกลุ่มแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางของลอรีอัล กรุ๊ป ได้เผยผลงานวิจัยด้านสุขภาพผิวพรรณ 2 งาน ซึ่งจัดทำโดย ลา โรช-โพเซย์ (La Roche-Posay) และ วิชี่ (Vichy) แบรนด์สกินแคร์ในเครือลอรีอัล กรุ๊ป โดยลา โรช-โพเซย์ การศึกษาด้านระบาดวิทยาทั่วโลกเกี่ยวกับความผิดปกติของสีผิวได้สำรวจกลุ่มคนจำนวน 48,000 คน ใน 34 ประเทศ พบว่า 50% เผชิญกับภาวะผิดปกติของเม็ดสีผิว เช่น โรคกระแดด รอยดำหลังผิวหนังอักเสบ และฝ้า อีกทั้งเกือบ 1 ใน 3 หรือ 28% ระบุว่า ภาวะผิดปกติของเม็ดสีผิวมีผลกระทบที่รุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของตนเองและยังทำให้เกิดการตีตรา และ 44% ของผู้ที่มีภาวะผิดปกติของเม็ดสี ระบุว่า ตนเองต้องทำการปกปิดส่วนผิวหนังที่มีภาวะผิดปกติ ที่น่ากังวลคือ การป้องกันตนเองจากแสงแดดในระดับที่ต่ำ โดยมีเพียง 38% ที่ปกป้องผิวของตนจากแสงแดดตลอดทั้งปี และมีเพียง 38% ที่คิดว่าแสงแดดเป็นอันตรายต่อผิว

ขณะที่แบรนด์ "วิชี่" ได้ทำการสำรวจผู้หญิงที่มีระดับสีผิวและช่วงวัยแตกต่างกันจำนวน 20,000 คน จาก 20 ประเทศ ซึ่งผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิง 72% รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนส่งผลกระทบด้านลบต่อสุขภาวะความเป็นอยู่ของตนเอง และผู้หญิงส่วนใหญ่ (3 ใน 4) ระบุว่า ปัญหาผิวพรรณมักจะเกิดขึ้นหรืออาการเลวร้ายมากยิ่งขึ้นในช่วงที่มีประจำเดือน และในผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน โดยในช่วงที่มีประจำเดือน ปัญหาที่พบมากสุดคือ ผิวหมองคล้ำ ผิวบาง และอาการคันหนังศีรษะ ส่วนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ปัญหาที่พบมากสุดคือ ริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย

 
ทั้งนี้ นอกจากผลการศึกษาวิจัยที่นำมาแลกเปลี่ยนร่วมกับแพทย์ผิวหนัง นักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัยชั้นนำของโลกแล้ว ลอรีอัล กรุ๊ป ยังขนทัพนวัตกรรมส่วนผสมใหม่และส่วนผสมที่พัฒนาจากหลักวิทยาศาสตร์เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Sciences) มาแบ่งปันความก้าวหน้าภายในงานประชุมครั้งนี้ด้วย อาทิ 

• เม็กโซริล 400 ส่วนผสมที่ใช้เวลาพัฒนากว่า 10 ปี ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วในผลิตภัณฑ์กันแดดยูวีมูน 400 ของลา โรช-โพเซย์ 
• โปร-ไซเลน โดยลอรีอัล ได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว พัฒนามาจากหลักการวิทยาศาสตร์ (Green Sciences)
• มาเดคาสโซไซด์ ส่วนผสมในลา โรช-โพเซย์ ซิคาพลาสต์ โบม บี5+ จากใบบัวบก คิดค้นโดยใช้น้ำและเอทานอลจากอ้อยแทนตัวทำละลายที่เป็นสารเคมีในอดีต 

มิเรียม โคเฮน-เวลกรีน ประธานแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางระดับโลก ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวทิ้งท้ายว่า ด้วยความร่วมมือกับกลุ่มแพทย์ผิวหนัง เรากำลังยกระดับสุขภาพผิวให้กับทุกๆ คนท่ามกลางความหลากหลายที่ไม่มีขีดจำกัด และช่วยเพิ่มความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ยั่งยืน และบริการที่ดีขึ้น รวมทั้งสนับสนุนผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อขยายช่องทางในการเข้าถึงสุขภาพผิวพรรณไปยังผู้คนทั่วโลกได้มากขึ้น 

สำหรับ L’Oréal Dermatological Beauty หรือกลุ่มแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางของ ลอรีอัล กรุ๊ป มีแบรนด์สกินแคร์ในประเทศไทย ได้แก่ ลา โรช-โพเซย์ วิชี่ และ เซราวี ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดเวชสำอาง ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโตสูงในภาพรวมตลาดความงาม