ออนิกซ์ฯ แข่งโกลบอลแบรนด์ ชู 'อมารี ราญา มัลดีฟส์' จุดหมายใหม่ดึงทัวริสต์
ออนิกซ์ฯ เดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ พร้อมเปิดตัว "อมารี ราญา มัลดีฟส์" เพื่อส่งมอบประสบการณ์ลักชัวรีให้นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกในเดือนสิงหาคม
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการทั่วโลกกลับมาฟื้นตัวอย่างคึกคักโดยเฉพาะประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นหมุดหมายของบรรดานักเดินทางอยากมาเยือน! เป็นจังหวะและโอกาสของกลุ่มทุนสัญชาติไทย ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) ผู้บริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์สู่เป้าหมาย The Best Medium-sized Hospitality Management Company in Southeast Asia
ยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า ได้ขยายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจโรงแรมของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป สู่ตลาดรีสอร์ตแนวลักชัวรีไลฟ์สไตล์ต่อเนื่อง โดยเปิดตัว "อมารี ราญา มัลดีฟส์" (Amari Raaya Maldives) รีสอร์ตหรูใน มัลดีฟส์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ระดับลักชัวรีให้นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกในเดือนสิงหาคมนี้ นับเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนสูงสุดในปีนี้บนคาบมหาสมุทรอินเดีย
"มหาสมุทรอินเดีย ขึ้นชื่อในเรื่องชายหาดธรรมชาติอันงดงามสำหรับรีสอร์ตลักชัวรี เป็นจุดหมายปลายทางแห่งความปรารถนาของเหล่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ขณะที่ อมารี ราญา มัลดีฟส์ คือพอร์ตโฟลิโอที่สะท้อนเป้าหมายหลักและคุณค่าในการดำเนินธุรกิจของ ออนิกซ์ฯ อย่างชัดเจน เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกแห่งใหม่ล่าสุดบนเกาะส่วนตัวใน Raa Atoll ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากธรรมชาติ ผืนมหาสมุทรอันสวยงามและกว้างใหญ่ และการผจญภัยที่หลีกเร้นจากความวุ่นวาย"
วิลล่าทุกหลังของ อมารี ราญา มัลดีฟส์ ออกแบบให้มองเห็นทิวทัศน์ของ มหาสมุทรอินเดีย สีครามกว้างไกลสุดสายตา ไร้สิ่งบดบังทั้ง 187 หลัง ห้องพักทั้งแบบวิลล่าริมหาดส่วนตัว (Beach Villa) วิลล่ากลางน้ำ (Overwater Pool Villa) หรือวิลล่าสำหรับครอบครัวที่เชื่อมถึงกัน รายล้อมด้วยธรรมชาติของแนวปะการัง และต้นปาล์มแห่งป่าเขตร้อนที่สมบูรณ์
อมารี ราญา มัลดีฟส์ เดินทางเข้าถึงเพียง 45 นาที โดยเครื่องบินน้ำ (Seaplane) จาก Velana International Airport มีลูกค้าเป้าหมาย รัสเซีย เยอรมัน อินเดีย สหราชอาณาจักร สหรัฐ เกาหลี และซาอุดีอาระเบีย ขณะที่จีนยังคงเป็นตลาดศักยภาพเติบโตสูงเมื่อเปิดประเทศ 100% โดยการจัดจำหน่าย อมารี ราญา มัลดีฟส์ เน้นทั้งโฮลเซล และ OTAs (Online Travel Agents) หรือเอเยนต์ออนไลน์ผ่านช่องทางตรงและเว็บไซต์ทางการ ซึ่งสัดส่วนลูกค้าจากตลาดเป้าหมายขึ้นอยู่กับการวางตำแหน่งด้านราคาและความต้องการในด้านประสบการณ์ของตลาดเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป
"ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก ครอบครัว หรือเพื่อน อมารี ราญา มัลดีฟส์ คือสถานที่ที่ดีไซน์มาเพื่อมอบประสบการณ์พิเศษและความทรงจำ ร่วมกันบนดินแดนแห่งเกาะสวรรค์ที่ยังไม่มีใครเคยเยี่ยมเยือนมาก่อนแห่งนี้"
จะเห็นว่าการขยายเครือข่ายธุรกิจของ ออนิกซ์ฯ ดึงจุดแข็งในความเป็น "A Tailored Approach to Hospitality" ต่อยอด พัฒนาธุรกิจ และทำงานร่วมกับคู่ค้า พันธมิตร ภายใต้ความเชี่ยวชาญ เรียกว่า รู้จริงในตลาดในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ รวมถึงอีกหลายประเทศในเอเชียแปซิฟิก ด้วยประสบการณ์กว่า 5 ทศวรรษ พร้อมทั้งความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหาร ฐานข้อมูลที่แข็งแกร่ง
"จุดแข็ง" เป็นกรอบสู่แนวทางบริหารงานภายใต้ 3 แกนหลักเคลื่อนทัพออนิกซ์ฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืน ประกอบด้วย
แกนแรก ให้ความสำคัญกับรูปแบบการทำงานขององค์กร กล่าวคือ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความเข้าใจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้ พร้อมรูปแบบการทำงาน ระบบการบริหารที่มีประสิทธิภาพมาตรฐานนานาชาติ มีความคล่องตัวและสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสมเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจของทุกฝ่ายร่วมกัน
แกนที่สอง มุ่งสร้าง "พันธมิตร" ระยะยาวเพื่อเติบโตไปด้วยกันรับเทรนด์ธุรกิจที่นักลงทุนมองหาความร่วมมือกับแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เพื่อส่งเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน ขยายอาณาจักรครอบคลุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ดึงดูดกลุ่มนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
"การพัฒนามาตรฐานแบรนด์อย่างต่อเนื่องเพื่อคงไว้ซึ่งศักยภาพ พร้อมแข่งขันได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตยั่งยืน"
ปัจจุบัน ออนิกซ์ฯ มี โรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ทั้งที่เป็นเจ้าของเองและรับบริหาร รวม 44 แห่ง ในไทยและต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย จีนรวมถึงฮ่องกง มัลดีฟส์ บังกลาเทศ และลาว
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไต่ระดับฟื้นตัวพร้อมเกมรุกขยายธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต และ เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ทั้งในและต่างประเทศ ผลักดันรายได้ออนิกซ์ฯ เพื่อทะยานสู่เป้าหมาย 8,800 ล้านบาท ในปีนี้
