EGAT และ CNOS มุ่งเตรียมความพร้อมพัฒนาโรงไฟฟ้า SMR สู่ความมั่นคงและยั่งยืน
EGAT จับมือ CNOS ร่วมทำ MOU แลกเปลี่ยนความรู้ และเทคโนโลยี มุ่งเตรียมความพร้อมพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) มาใช้ที่ประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นคง และยั่งยืนด้านการจัดหาพลังงานระยะยาว
14 ส.ค. 67 ทิเดช เอี่ยมสาย รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) (EGAT) และ Mr.Qiao Gang, Vice President of China National Nuclear Corporation Overseas Ltd. (CNOS) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ มุ่งส่งเสริม พลังงานสะอาด สร้างความมั่นคงและความยั่งยืนด้านการจัดหาพลังงาน ณ ห้อง Press Conference ชั้น 3 อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ กฟผ.
ทิเดช เอี่ยมสาย รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน กฟผ. เผยว่า กฟผ. มีเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจาก พลังงานสะอาด ซึ่งพลังงานนิวเคลียร์เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูง ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตไฟฟ้า สามารถช่วยเพิ่มความมั่นคงและความยั่งยืนด้านการจัดหาพลังงานในระยะยาวได้ ปัจจุบัน EGAT อยู่ระหว่างการศึกษาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก ตลอดจนการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อที่รองรับโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย ซึ่ง SMR เป็นหนึ่งในพลังงานทางเลือกที่มีความเป็นไปได้ในแผนพลังงานชาติ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานในอนาคต และเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน นอกจากนี้โรงไฟฟ้า SMR มีขนาดเล็กจึงมีความยืดหยุ่นและความปลอดภัยสูง โดยออกแบบและผลิตเป็นโมดูลในโรงงานแล้วนำไปติดตั้งในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาการก่อสร้างได้
Mr.Qiao Gang, Vice President of CNOS กล่าวว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าแล้ว 57 เครื่อง (Unit) และกำลังก่อสร้างหรืออยู่ในระหว่างขออนุมัติจากรัฐบาล 36 เครื่อง โดยเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของ China National Nuclear Corporation (CNNC) ที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าแล้ว 26 เครื่อง และอยู่ระหว่างก่อสร้างหรืออนุมัติ 18 เครื่อง ซึ่ง CNNC เป็นบริษัทแม่ของ CNOS และเป็นบริษัทเดียวในสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ดำเนินธุรกิจด้านนิวเคลียร์อย่างครบวงจรตั้งแต่การทำเหมืองยูเรเนียมที่เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ การออกแบบและก่อสร้าง จนถึงการจัดการเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว และเป็นกำลังหลักในการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน
Mr.Qiao กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาโรงไฟฟ้า SMR ที่ทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก CNNC อยู่ระหว่างการก่อสร้าง SMR แห่งแรก โดยกำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ภายในสิ้นปี 2568 สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบว่า กฟผ. เป็นหน่วยงานสำคัญด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการสำรวจและพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของประเทศไปสู่ความยั่งยืน ตามแนวทางที่รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาและวางแผนการใช้โรงไฟฟ้า SMR ในทศวรรษหน้า เนื่องจากพลังงานนิวเคลียร์เป็น พลังงานสะอาด มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย รวมทั้งมีบทบาทสำคัญในการลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ EGAT และ CNOS จะร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ และโรงไฟฟ้า SMR ทั้งในด้านเชื้อเพลิง งานวิศวกรรม งานก่อสร้าง การดำเนินงานและการบำรุงรักษา รวมถึงการจัดการกากกัมมันตรังสีและเชื้อเพลิงใช้แล้ว โดย CNOS จะให้การสนับสนุนการศึกษาและเตรียมการพัฒนาโรงไฟฟ้า SMR ของกฟผ. เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ด้านพลังงานนิวเคลียร์ และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสู่การดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน