ฝนเพิ่มเหนือเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลฯ ปรับเพิ่มการระบายสอดคล้องสถานการณ์
ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมเพิ่มมากขึ้น กรมชลประทาน จึงทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อช่วยลดผลกระทบที่เกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด
24 ตุลาคม 2567 ศูนย์ปฎิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมใน แม่น้ำเจ้าพระยา และลำน้ำสาขาเพิ่มมากขึ้น เมื่อเวลา 12.00 น. ที่สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,839 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำและฝนที่ตกในระยะนี้ กรมชลประทาน จะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่าน เขื่อนเจ้าพระยา แบบขั้นบันไดอยู่ในอัตรา 1,600 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 18.00 น. วันนี้ (24 ต.ค. 67) ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ จากการร่วมติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศและสถานการณ์น้ำท่าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ในช่วง 1-7 วันข้างหน้า สถานี C2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ในอัตรา 1,900 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน เขื่อนเจ้าพระยา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั้น จึงมีความจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบน โดยจะควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 1,900 ลบ.ม./วินาที เพื่อช่วยลดผลกระทบที่เกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำและการแจ้งเตือนจากหน่วยงานทางราชการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีฝนในระยะนี้ อาจส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป