กฟผ. ชูกลยุทธ์ Triple S มุ่งขับเคลื่อนไทยสู่ Carbon Neutrality ใน COP29
กฟผ. ร่วมเป็นคณะผู้แทนไทยนำเสนอผลงานบนเวที Thailand Pavilion ของการประชุม COP 29 พร้อมชูกลยุทธ์ Triple S นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อนการผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งผลักดันประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality
นายเอกรัฐ สมินทรปัญญา ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ร่วมเป็นคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมในกิจกรรมคู่ขนานของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 หรือ COP 29 ณ กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน นำโดย ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล กรรมการ กฟผ. ร่วมเสวนาในหัวข้อ “การเปลี่ยนผ่านภาคพลังงานมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Energy Transition towards Carbon Neutrality) ชูกลยุทธ์ Triple S ได้แก่ Sources Transformation เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ปรับปรุงโรงไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ Sink Co-creation เพิ่มแหล่งดูดซับกักเก็บคาร์บอน และ Support Measures Mechanism ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับพัฒนาโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมสู่การสร้างคุณค่าร่วม Creating Shared Value (CSV) ให้กับสังคม ชุมชนรอบเขื่อนและโรงไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ด้วยโครงการนำร่อง “แม่เมาะเมืองน่าอยู่” เพื่อพัฒนาให้พื้นที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เป็นเมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ด้วย 3 แนวคิด คือ Smart Energy, Smart Environment และ Smart Economy รวมถึงเตรียมขยายผลยังพื้นที่เขื่อนรัชชประภา และโรงไฟฟ้ากระบี่
“พร้อมกันนี้ นายชัชวาล วงศ์มหาดเล็ก และนายชาคริต เย็นที่ จากฝ่ายบริหารและก่อสร้างโรงไฟฟ้า กฟผ. ร่วมนำเสนอผลงานในหัวข้อ From Waste to Solutions: Compostable Packaging and Biomass Products for a Cleaner Environment โดยนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาแปรรูปเป็นชีวมวลอัดแผ่น ซึ่งมีคุณสมบัติลดเสียงและความร้อน อีกทั้งยังลดการเผาวัสดุทางการเกษตรที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหา PM2.5 และภาวะโลกร้อน เพื่อช่วยขับเคลื่อนและสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุตามเป้าหมายการ ลดก๊าซเรือนกระจก ของประเทศ”
นอกจากนี้ กฟผ. ยังร่วมจัดนิทรรศการแสดงความก้าวหน้าทางนวัตกรรมและเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Technology) ด้านพลังงานไฟฟ้า ภายใน Thailand Pavilion อาทิ
- ENZY Platform ระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ ควบคุมและบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าแบบ Real Time ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยนำข้อมูลการผลิตไฟฟ้า การใช้พลังงานไฟฟ้าและข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อควบคุมและแนะนำการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้ไฟฟ้าเมื่อมีปริมาณใช้ไฟฟ้าสูงเกินเป้าหมาย
- EGAT EV Business Solutions ผลิตภัณฑ์และบริการด้านสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย อาทิ บริการออกแบบและติดตั้งสถานีชาร์จแบบครบวงจร แอปพลิเคชัน EleXA แพลตฟอร์มสำหรับค้นหาสถานีชาร์จเพื่อวางแผนการเดินทางและจองชาร์จ BackEN EV ระบบบริหารจัดการโครงข่ายสถานีชาร์จและประมวลผลข้อมูล
- โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำในเขื่อนของ กฟผ. (Floating Solar Project) ต้นแบบโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดเพื่อให้สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งจากพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าพลังน้ำได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน
“กฟผ. มุ่งมั่นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้ามาพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ รองรับทุกการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน และช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศทั้งในระดับภูมิภาคและนานาชาติ สร้างความเติบโตให้กับเศรษฐกิจของประเทศ” นายเอกรัฐ สมินทรปัญญา กล่าวทิ้งท้าย