'ศ.ดร.เอนก' ลงพื้นที่แม่ฮ่องสอน เผยเสียงตอบรับดี
"เอนก เหล่าธรรมทัศน์" พร้อมทีมงาน "รวมพลังประชาชาติไทย" ลงพื้นที่พบปะชาวแม่ฮ่องสอน หาสมาชิกพรรคเป็นวันที่ 2 เผยได้รับการต้อนรับนอย่างดี ย้ำปักธงในเมืองสามหมอกได้แน่นอน ขณะที่กลุ่ม กปปส. แห่ให้กำลังใจคับคั่ง
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย นายมหินทน์ ตันบุญเพิ่ม อดีตที่ปรึกษา ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมคณะผู้แทนจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยลงพื้นที่พบปะประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นวันที่สอง
โดยวันนี้ในช่วงเช้าเดินทางไปใส่บาตรที่บริเวณหน้าตลาดสดสายหยุด จากนั้นได้ลงพื้นที่เข้าเยี่ยมพบปะทักทายพ่อค้าแม่ค้าประชาชนในตลาดสดสายหยุดเป็นจุดแรกและตลาดวันอาทิตย์ในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นจุดที่สอง โดยการแนะนำพรรครวมพลังประชาชาติไทยให้ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้รู้จักพร้อมกับแจกใบสมัครสมาชิกพรรคให้กับพ่อค้าแม่ค้าประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของในตลาดสดสายหยุดเชิญชวนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งก็ได้รับความสนใจและให้การต้อนรับจากพ่อค้าแม่ค้าประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นอย่างดี
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีประชาชนจำนวนหนึ่ง เข้ามาหาและขอสมัครเป็นสมาชิกพรรค ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ในการเดินทางมา จ.แม่ฮ่องสอนในครั้งนี้ เป็นการมทำงานทางด้านการเมือง ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก ประชาชนยิ้มแย้มแจ่มใส แต่บ่นเรื่องเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่คาดว่า หลังเลือกตั้งเศรษฐกิจจะดีขึ้น โดยพรรคจะเน้นเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความสุขเป็นอันดับแรก
สำหรับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้มีการพิจารณาผู้สมัคร 2 คน ที่คนหนึ่งทำงานอยู่องค์กรเอกชน ทำงานด้านกลุ่มชาติพันธุ์ จะลงสมัครในระบบปาร์ตี้ลิส ส่วนอีกคนเป็นผู้ใหญ่อยู่ในวงการศึกษามาก่อน ทำงานในอำเภอเมืองและขุนยวมมาก่อน มีฐานเสียงที่แน่นเป็นพิเศษ ลงสมัครเป็น ส.ส.เขต มั่นใจจะปักธงที่ จ.แม่ฮ่องสอนได้ และขอฝากพรรครวมพลังประชาชาติไทยกับคนแม่ฮ่องสอน ด้วย
อย่างไรก็ตามหลังพบปะกับสื่อมวลชนและผู้สนับสนุนแล้ว ต่อมาได้มีกลุ่มสมาชิก กปปส.จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปพบกับ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก และมีการประชุมลับ ในร้านอาหารแห่งหนึ่งของ จ.แม่ฮ่องสอน คาดว่า เป็นการวางแนวทางในการหาเสียง เพื่อต่อสู้กับพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวเนื่องจากมีหลายคนเป็นนักการเมืองเก่า ที่ผ่านสนามเลือกตั้งมาแล้วนับไม่ถ้วน ขณะที่ พรรค รปช. ส่งคนลงสมัครเป็นคนหน้าใหม่ แต่อาศัยที่เคยเป็นครูมาก่อนและมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะลูกศิษย์ ที่เป็นชนเผ่าต่างๆ บนดอยสูงซึ่งคนเหล่านั้นจะเป็นตัวแปรในการเลือกตั้งมาทุกครั้งของสนามเลือกตั้ง จ.แม่ฮ่องสอน