'พาณิชย์' มั่นใจส่งออกปีนี้เดินหน้าได้ดี
"พาณิชย์" แจง ส่งออก ม.ค.ติดลบ เป็นไปทุกประเทศทั่วโลก เผยยอดสั่งซื้อสินค้าในงาน Sourcing Forum สูงถึง 3,800 ล้านบาท
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากความกังวลของหลายฝ่ายเกี่ยวกับตัวเลขส่งออกไทยล่าสุดเดือนมกราคม 2562 ติดลบ 5.7 % นั้น พบว่าเป็นไปในแนวทางเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก เป็นผลจากประเด็นข้อพิพาททางการค้า เศรษฐกิจประเทศใหญ่ชะลอตัว และปัจจัยภายในของบางประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets) แต่เมื่อดูเปรียบเทียบกับประเทศอื่นแล้วพบว่า สถานการณ์ส่งออกไทยปี 2561 ขยายตัว 6.7 % อยู่ในระดับกลางและมีสถานการณ์ที่ดีกว่าหลายประเทศ อาทิ เกาหลีใต้ ขยายตัว 5.5 % ไต้หวัน ขยายตัว 4.8 % ญี่ปุ่น(ขยายตัว 4.1 % และฟิลิปปินส์ ติดลบ 1.8 %
ทั้งนี้ ไทยยังรักษาสัดส่วน หรือ market share ในประเทศต่าง ๆ ไว้ได้ เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน และมีแนวโน้มว่า จะขยายตัวในตลาดใหม่ ๆ โดยในตลาดญี่ปุ่น ขยายตัวได้ดีในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของไทยในจีนลดลงเล็กน้อย เกิดจากกลุ่มสินค้ายางพาราที่จีนมีแนวโน้มหันไปนำเข้าจากกลุ่มประเทศ CLMV มากขึ้น และยังพบว่า ไทยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในตลาดศักยภาพ โดยเฉพาะ อินเดีย ขณะที่สินค้าก็พบว่า ไทยยังมีโอกาสส่งออกได้เพิ่ม โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารของไทย โดยปี 2561 กลุ่มอาหารมีมูลค่าส่งออก 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์หรือคิดเป็น 8.5 % ของมูลค่าส่งออกรวม และขยายตัว 6.9% จากปีก่อน โดยสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ ผลไม้สดแช่แข็ง ไก่แปรรูป เครื่องดื่ม นอกจากนี้ หากสหรัฐฯ และจีนตกลงกันได้ จะลดความตึงเครียดในระบบการค้าโลกได้ จึงยังมั่นใจว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ดีในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ ( Sourcing Forum) ให้ผู้นำเข้ามาพบผู้ส่งออกไทย ในวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมามีการจับคู่ธุรกิจ 1,900 คู่ มีมูลค่าการสั่งซื้อทั้งหมด 3,900 ล้านบาท โดย 3,800 ล้านบาทอจะยู่ในกลุ่มสินค้าพวกอาหาร ของใช้ภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง ส่วนกลุ่มผลไม้ มียอดการสั่งซื้อ 100 ล้านบาท และในวันนี้ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกเดินทางไปดูผลไม้ที่จ.จันทบุรี คาดว่าจะมียอดสั่งซื้อตามมาอีก ทั้งทุเรียน มังคุด มะม่วง ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้ยอดสั่งซื้อเกินความคาดหมาย หลายบริษัทขนาดเล็กและขนาดย่อย มีโอกาสพบปะเจราธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการซื้อขายผ่ายออนไลน์อีกด้วย