มีเด้ง ก่อนแกว่งตัวแคบๆ ต่อไป

KGI ประเมิน SET Index วันอังคารรีบาวด์สั้น ก่อนไซด์เวย์ต่อไป... หลังเมื่อวานดัชนี SET ปรับฐานตามที่คาด... ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมวันนีถื้อว่าเป็นกลาง และไม่มีข่าวสารต่างประเทศใหม่ๆ มากนักจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัวเช่นกันหลังนักลงทุนชะลอกิจกรรมเพื่อติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะออกมาหลายตัวช่วงปลายสัปดาห์นี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง GDP ไตรมาสสองที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินทิศทางของผลประชุมเฟดในวันที่ 31 ก.ค. ... อย่างไรก็ดี เช้ามืดวันนี้มีข่าวบวกจากฝั่งสหรัฐฯ
เข้ามา หลัง ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์สามารถบรรลุดีลกับสภาคองเกรสในการยืดเพดานหนี้สหรัฐฯ ออกไปยาวนานถึง 2 ปี ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ มองว่านักการเมืองสหรัฐฯ น่าจะต้องการโฟกัสกับการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2563 เป็นหลักมากกว่าถกเถียงประเด็นดังกล่าวนั่นเอง ด้านนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้งเมื่อวานนี้ น่าจะค้ำยันจิตวิทยาการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ระดับหนึ่ง ภาพใหญ่ของ SET Index จึงยังคงเป็นไซด์เวย์ ด้านปัจจัยภายในประเทศ ยังคงให้ติดตามการแถลงนโยบายของ ครม.ชุดใหม่ในวันที่ 25 ก.ค. นี้ 

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร MEGA*, PYLON, TK

- MEGA* (เป้าพื้นฐาน 39 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 35.5 บาท / แนวต้าน 38 บาท และถัดไป 40 บาท (Stop loss 34 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 2Q62 ลดลงเล็กน้อย YoY, QoQ เนื่องจากมีรายจ่ายพิเศษตั้งสำรองพนักงานตามกฏหมายแรงงานใหม่ แต่คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H62 จะกลับมาเติบโต HoH (คาด 2Q62 เป็นจุดตํ่าสุดของปี) 3) PE 21 เท่า ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีตที่ 25 เท่า 4) เราประเมินค่าเงินบาทน่าจะเริ่มหยุดการแข็งค่า จากมาตรการคุมค่าเงินของแบงก์ชาติ (MEGA* มีรายได้เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ >50% ของรายได้รวม)

- PYLON (เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.35 บาท / แนวต้าน 6.6 บาท และถัดไป 7.0 บาท (Stop loss 6.15 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard ผู้รับเหมา งานเสาเข็มอย่าง SEAFCO (ประเมินรับ Sentiment บวกจากการเตรียมแถลงนโยบายรัฐบาลใหม่เร็วๆนี้ 3) ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 2Q62 โต +108% YoY เป็น 65 ล้านบาท (ลดลง QoQ เพราะปัจจัยฤดูกาล) และ Valuation ไม่แพง PE 18 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 23 เท่า) และปันผล +5%

- TK (เป้า Consensus 9.8 บาท ... สูงสุด 12.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 10 บาท / แนวต้าน 10.3 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 11.1 บาท (Stop loss 9.8 บาท) 2) เราประเมินรับอานิสงส์แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง และ Sentiment บวกจากนโยบายลดค่าครองชีพ +กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของรัฐบาลใหม่ ขณะที่ราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่มเช่าซื้อ 3) Valuation ไม่แพง PE 11.3 เท่า Dividend yield 5% ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์ในธีมเดียวกันเช่น ECL, ASK เป็นต้น

หุ้นเชิงปริมาณ & พืน้ ฐาน "Quantamental"

- แนะนำคงนํ้าหนักการลงทุนตามเดิม และปรับกลยุทธ์เป็นการเก็งกำไรสั้นมากขึ้น หุ้นเด่นเลือก IRPC* (Stop loss 4.8 บาท), WHAUP* (Stop loss 5.4 บาท), PYLON (Stop loss 6.05 บาท)

- กลยุทธ์ Pair trade เพื่อลดความเสี่ยงตลาดฯ (Beta) Stop loss กลยุทธ์ Long KBANK* / Short KTB* (ขาดทุนมากกว่า -5%)

หุ้นมีข่าว

(+) GULF* ยันไร้ผลกระทบ ปัญหาจ่ายไฟเวียดนาม (กรุงเทพธุรกิจ) "กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี" ยืนยันไม่ได้รับผลกระทบจาก กรณีสายส่งในพื้นที่เวียดนามรองรับไม่พอ เหตุไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของบริษัท พร้อมยืนยันโครงการที่ดำเนินอยู่ยังจ่ายไฟได้ 98-100% เผยล่าสุดลงนามสัญญาซื้อขายไฟกับทางการเวียดนาม อายุ 20 ปี เตรียมก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม เฟสแรก ภายในไตรมาส 3 นี้

(0) BTS* แนะถก ค่าโดยสาร 15 บาท ลั่นหนุนรัฐบาล (กรุงเทพธุรกิจ) "ศักดิ์สยาม" ลั่นปรับลดค่าครองชีพต้องชัดเจนภายใน 1 เดือน "คีรี" ยันพร้อมร่วมมือรัฐบาลช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน แต่ต้องหาแนวทางที่เหมาะสม หวั่นเอกชนแบกภาระอยู่ไม่ได้ ด้าน รฟม.ย้ำต้องถกร่วมเอกชน หวั่นกระทบสัญญาสัมปทาน

(+) SPCG ผนึกพันธมิตรลุยโซลาร์รูฟทั่วไทยชูเป้าผลิต 500 MW (ทันหุ้น) SPCG จับมือพันธมิตรให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟในประเทศไทย เน้นกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ตั้งเป้า 500 เมกะวัตต์ภายใน 2 ปี แย้มแผนลงทุนโครงการโซลาร์ญี่ปุ่น กำลังการผลิต 480 เมกะวัตต์ ช่วงตุลาคม 2562 มั่นใจรายได้ปี 2562 ชนเป้า 7,000 ล้านบาท

(+) FPT ขายคลังสินค้าเข้า FTREIT เตรียมเพิ่มทุน 182.62 ล้านหุ้น (ข่าวหุ้น) บอร์ด FPT ไฟเขียวขายคลังสินค้า 6 ยูนิต เข้ากอง FTREIT มูลค่ารวม 637 ล้านบาท เล็งนำเงินมาใช้ในการพัฒนาอาคารโรงงาน/คลังสินค้า และชำระคืนหนี ้พร้อมขายหุ้นเพิ่มทุน 182.62 ล้านหุ้น ให้ PP ที่ราคา 17.90 บาท/หุ้น

(+) SCI ผนึก'โกลด์ อีลิท ปารีส’เปิดตัว'ยืมมั้ย’บริการยืมมือถือรายแรกในไทย (ข่าวหุ้น) SCI จับมือ “โกลด์ อีลิท ปารีส” ตั้ง บริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “ยืมมั้ย” ให้บริการยืมโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชันรายแรกในไทย ตั้งเป้าปีแรกมีผู้ใช้บริการ 100,000 เครื่อง คิดเป็นมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท