“เฟซบุ๊ค”ยอมจ่าย5พันล้านดอลลาร์จบคดีข้อมูลผู้ใช้รั่ว

“เฟซบุ๊ค”ยอมจ่าย5พันล้านดอลลาร์จบคดีข้อมูลผู้ใช้รั่ว

คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (เอฟทีซี) แถลงเมื่อวันพุธ(24ก.ค.)ว่า บริษัทเฟซบุ๊ค อิงค์ ยอมจ่ายเงินค่าปรับจำนวน 5 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 155,000 ล้านบาท เพื่อยุติการสอบสวนกรณีที่เฟซบุ๊คปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานรั่วไหล

ค่าปรับดังกล่าวถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เอฟทีซีเคยสั่งปรับบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่เอฟทีซีสั่งปรับบริษัทกูเกิ้ลจำนวน 22.5 ล้านดอลลาร์ในข้อหาเดียวกันเมื่อปี 2555 และค่าปรับ 5 พันล้านดอลลาร์เทียบเท่ากับรายได้ราว 9% ของเฟซบุ๊คในปีที่แล้ว

นอกจากนี้ เอฟทีซี ยังมีคำสั่งให้เฟซบุ๊คตั้งคณะกรรมการอิสระภายในบอร์ดบริหารของบริษัท เพื่อลดอิทธิพลและการครอบงำของนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ค เกี่ยวกับการตัดสินใจด้านนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล  โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะถูกแต่งตั้งจากคณะกรรมการอิสระอีกชุดหนึ่ง และจะถูกปลดออกต่อเมื่อกรรมการ 2 ใน 3 ให้ความเห็นชอบ

นอกจากนี้ นายซัคเคอร์เบิร์ก ยังต้องยื่นรายงานเป็นรายไตรมาสต่อเอฟทีซี เพื่อแสดงว่าบริษัทได้ปฏิบัติตามนโยบายรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน รวมทั้งให้การรับรองเป็นรายปีต่อการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (กลต.) แถลงว่า เฟซบุ๊คยินยอมจ่ายเงิน 100 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีที่ทางบริษัทใช้ข้อความหลอกลวงเกี่ยวกับความเสี่ยงที่บริษัทอาจลักลอบใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน