ผบ.ทบ.ชี้อย่ามโนข่าวระเบิด จับตา 'กลุ่มมาสเตอร์มาย' ดิสเครดิตรบ.
"พล.อ.อภิรัชต์" ชี้อย่ามโนข่าวระเบิด จับตากลุ่ม "มาสเตอร์มาย " ดิสเครดิตรัฐบาลห้วงประชุมตปท. ยกเหตุล้มประชุมอาเซียนปี 52 ลั่นการเมืองต้องเล่นในสภาฯ
เมื่อเวลา 07.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานงานวันคล้ายวันสถาปนาหน่วยงานในกองบัญชาการกองทัพบก 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมกำลังพลทหารบก, กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก, กรมสารบรรณทหารบก และสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ครบรอบปีที่ 67 โดยมีนายทหารระดับสูงกองทัพบก และกำลังพลจาก 4 หน่วยงานเข้าร่วมพิธีฯ
ทั้งนี้ภายหลังสิ้นเสร็จพิธีฯ พล.อ.อภิรัชต์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบระเบิดหลายจุดทั่วกทม.ว่า การให้ข่าวทางโซเชียลและสื่อต่างๆต้องอ้างอิงจากตำรวจ โดยเฉพาะการให้ข่าวต้องติดตามการแถลงจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่ามโนกันไปเอง เพราะมีคนทั้งชอบและไม่ชอบก็ต่างมโนกันไป ซึ่งโซเชียลหรือข่าวปลอมมีอิทธิพลมาก ทั้งนี้ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บอกแล้วว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นอย่างไร ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน อีกทั้งบางครั้งข่าวที่ออกมาก็ยังไม่ผ่านการแถลงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถือเป็นหน่วยงานหลัก เนื่องจากตอนนี้ไม่มีกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) แล้ว ทางทหารจะรับผิดชอบเฉพาะงานด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รมน.)ปกติ เพราะฉะนั้นนายกรัฐมนตรีที่ควบคุมหน่วยงานด้านความมั่นคงจะเป็นผู้สั่งการในงานของทหารและตำรวจ โดยวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนตนก็จะต้องไปดูเรื่องการวางกำลังและการจัดกำลังใหม่กับแม่ทัพภาคที่ 4 ในการดูแลประชาชน
"ผมเคยพูดตั้งแต่สมัยเป็นแม่ทัพภาพที่ 1 ในคำว่า neighbor watch ตามหลักคือในส่วนของเพื่อนบ้าน เราต่างคนต่างดู แต่นี่คือบ้านเรา ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันดู ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบวัตถุต้องสงสัยต้องช่วยกันดูแล แต่ข่าวต่างๆที่ออกมาก็เบี่ยงเบนประเด็นบ้าง เพื่อให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลก็ทำงานไปได้ด้วยดีแล้ว แต่เพิ่งทำงานไม่กี่วันก็มีเหตุระเบิด ผมขอร้องสื่อมวลชนให้ถามคำถามในเชิงสร้างสรรค์ หรืออย่าทำให้เกิดการตีความ เพราะบางข่าวพูดอีกอย่างแต่เสนออีกอย่าง หรือมีการตัดตอนข่าว หากเป็นอย่างนี้การสัมภาษณ์ก็ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน ไม่มีใครที่ไม่อยากเห็นประเทศตัวเองไม่สงบเรียบร้อย ผมอยากให้ฟังข่าวสารจากความมั่นคงที่ถูกต้องเป็นหลัก" ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรัฐบาลพยายามตั้งศูนย์ในการต่อต้านเฟคนิวส์หรือข่าวปลอมขึ้นมา ซึ่งหลายประเทศเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มากในการต่อต้าน โดยมีระบบให้ความรู้กับประชาชน เพราะประชาชนทุกคนถือว่ามีสิทธิ์มีเสียงและมีไมโครโฟนเป็นของตัวเอง นั่นคือโทรศัพท์มือถือ ที่จะสามารถกดอะไรก็ได้ อยู่ที่วิจารณญาณ และจริยธรรมในตัวของตัวเองในสิ่งที่ตัวเองส่งไป ขอให้ตระหนักถึงการรับและแชร์ข้อมูล โดยขอให้ฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เป็นหลัก ปัจจุบันมีการฟ้องกันเรื่องนี้มากขึ้น ดังนั้นเรื่องความสงบเรียบร้อย และเรื่องระเบิด ขอให้ติดตามการแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก อย่าไปติดตามอะไรที่ไม่มีที่มาที่ไป
เมื่อถามว่า สาเหตุของการก่อเหตุจะเกิดจากสิ่งใด พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า สาเหตุเพราะต้องการทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น เนื่องจากเกิดเหตุในช่วงที่บ้านเมืองมีผู้นำต่างประเทศมาประชุมงานด้านการต่างประเทศ ซึ่งเราก็เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ในการประชุมอาเซียนเมื่อปี 52 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่จ.ภูเก็ต และที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตนก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นมาตลอด วัตถุประสงค์ของการดิสเครดิตต่างๆของรัฐบาลเกิดจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งตนไม่อยากบอกว่าเป็นฝ่ายใด แต่เชื่อว่าคนดีๆเขาไม่ทำกัน และถามว่ารัฐบาลจะทำร้ายตัวเองเพื่ออะไร
เพราะรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมีเรื่องต่างๆที่จะต้องแก้ไข เพื่อนำพาประเทศชาติก้าวข้ามออกไปอีกมามาย รวมถึงต้องควบคุมคณะรัฐมนตรีที่มาจากหลายพรรคการเมือง ถือเป็นเรื่องการเมืองที่ไม่เกี่ยวกับตน ในส่วนของตนก็จะดูแลด้านความมั่นคง และดูแลทหารเป็นหลัก ซึ่งตนเพิ่งหารือกับเสนาธิการทหารบกและเจ้ากรมยุทธการทหารบกมาพูดคุยเรื่องการปรับแผนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดภาคใต้
เมื่อถามว่า กลุ่มเดิมๆที่เคยระบุไว้ ทางฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามความเคลื่อนไหวคนกลุ่มนี้ตลอดเวลาหรือไม่ ผบ.ทบ. กล่าวว่า ยังไม่สามารถเชื่อมโยงไปถึงคนที่บ่งการหรือวางแผนทุกอย่างด้วยหลักกลยุทธ์และยุทธวิธีเพื่อให้มีคนไปดำเนินการปฎิบัติ ซึ่งเหล่านี้เป็นกระบวนการ คนที่บงการส่วนใหญ่จะสืบไปถึงตัวได้ยาก ทำให้เราได้แต่คาดเดา และต้องใช้เวลาในการหาหลักฐาน ซึ่งขณะนี้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปฎิบัติงานได้เป็นอย่างดี และตอบสนองนายกรัฐมนตรีได้ ในส่วนของกองทัพบกให้การสนับสนุนเรื่องข้อมูลข่าวสารที่เคยรวบรวมไว้ แต่กลุ่มเดิมที่ตนหมายถึงก็คือกลุ่มเดิมที่เป็นมาสเตอร์มาย หรือผู้อยู่เบื้องหลังนั้นมีความคิดที่จะก่อเหตุในทุกรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการทำระเบิดหรือการทำข่าวปลอมก็ถือเป็นการบ่อนทำลายประเทศอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน
เมื่อถามว่า ใช่ฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวหา ตนไม่ได้อยู่ในฐานะนักการเมือง เนื่องจากตอนนี้ไม่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว ตนพูดในส่วนของความมั่นคงไม่ได้อ้างอิงเกี่ยวกับการเมือง แต่เราก็คนไทยด้วยกันหากประเทศเดินไปได้ในทุกเรื่องก็น่าจะเกิดความเรียบร้อย แต่การที่ยังมีคนวางแผนบงการ มีความคิดที่ไม่ยอมรับและไม่เคารพกติกา ตอนนี้ก็ขอให้ไปเล่นกันในสภาฯ
เมื่อถามว่า ผู้วางแผนหรือผู้บงการนั้นอยู่ในหรือนอกประเทศ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า มันอยู่ได้ทุกที่ ทุกหนทุกแห่งในโลกหรืออาจจะอยู่ในโลกออนไลน์ก็ได้ อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนให้เป็นหูเป็นตาดูแลบ้านของทุกคน หากเห็นวัตถุต้องสงสัยก็ขอให้แจ้งมา เพราะประชานถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุด เราต้องช่วยกันดูแลบ้าน เพราะประเทศไทยคือบ้านของพวกเราทุกคน
เมื่อถามว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว มั่นใจได้หรือไม่ว่าจะสาวไปถึงตัวผู้บงการได้ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องไปขยายผลในการสืบหาตัวผู้กระทำความผิด คงต้องใช้เวลา บางครั้งที่มีการเรียกว่าตัดตอนคงไม่ใช่ง่ายๆ เพราะทุกอย่างมีความลึกลับซับซ้อน ยิ่งนานวันความลึกลับซับซ้อนของขบวนการมีเทคโนโลยีเป็นส่วนช่วยสามารถเข้าถึงง่าย แต่ในทางกลับกันจะสามารถเข้าถึงตัวผู้บงการได้ง่ายด้วยเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่า มีบางฝ่ายเสนอให้ตัดงบฯของกองทัพ เพื่อไปซื้อกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมนั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะกล้องวงจรปิดมีจำนวนมากอยู่แล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการบูรณาการในการใช้งาน เพราะทุกหน่วยงานมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด สังเกตว่าบางครั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถติดตามคนร้ายได้จากกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ บางทีต้องใช้ของธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ ห้างร้าน ที่เขามีไว้ปกป้องในส่วนของเขาเอง แต่ตอนนี้มีระบบการออนไลน์แบบบูรณาการ รวมทั้งยังมีกล้องของกทม. ตำรวจจราจร ทหาร และตำรวจ คือทุกคนมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด สามารถมาบูรณาการใช้ได้ ซึ่งการซื้อกล้องวงจรปิดก็ไม่ใช่ในส่วนงบประมาณของกระทรวงกลาโหม