'ทรัมป์' ขู่ตอบโต้ชาติออกคำเตือนสหรัฐไม่ปลอดภัย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เตือนประเทศที่ออกคำเตือนพลเมืองให้เพิ่มความระมัดระวังเรื่องการเดินทางมาสหรัฐว่า อาจเจอมาตรการตอบโต้จากรัฐบาลวอชิงตันรวมถึง แคนาดา ญี่ปุ่น อุรุกวัย และเวเนซุเอลา
ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวเมื่อวันศุกร์(9ส.ค.) ว่าขณะนี้แกนนำในสภาคองเกรสส์จากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตกำลังหารืออย่างจริงจังเพื่อปฏิรูปกฎหมายอาวุธปืนให้เข้มงวดมากขึ้น แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ กล่าวเพียงว่าเขาได้หารือกับสมาชิกระดับสูงของสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ ( เอ็นอาร์เอ ) ซึ่งเป็นล็อบบี้ยิสต์ด้านอาวุธปืนเก่าแก่ และทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศ โดยไม่ได้บอกว่าหารือกับเอ็นอาร์เอในประเด็นใด แต่หนึ่งในประเด็นที่เอ็นอาร์เอคัดค้านมาตลอดคือการยกระดับการตรวจสอบประวัติผู้ซื้อ
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังกล่าวถึงกรณีที่มีหลายประเทศออกคำเตือนภัยแก่พลเมืองของตัวเองให้เพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตหรือท่องเที่ยวในสหรัฐ เพราะเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาชญากรรมจากอาวุธปืน ว่า หากสหรัฐพบว่าประเทศใดออกมาตราดังกล่าว ซึ่งเป็นการทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของสหรัฐ เขาในฐานะผู้นำประเทศต้องตอบโต้
คำขู่ของทรัมป์ เกิดขึ้นหลังจากแพทริก ครูเชียส ชายหนุ่มผิวขาววัย 21 ปี ที่ก่อเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าวอลมาร์ท สาขาเมืองเอลปาโซ ทางตอนใต้ของรัฐเทกซัส ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดผ่านแดนเม็กซิโก เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 24 คน
ล่าสุด นายครูเชียสรับสารภาพว่าเป้าหมายในการก่อเหตุของเขาคือชาวเม็กซิกันและคำประกาศเจตนารมณ์ที่เขาโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ก่อนลงมือก่อเหตุไม่นาน คือการแสดงความหวาดกลัวกรณีที่ชาวฮิสแพนิกกำลังมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นในรัฐเทกซัส