'พท.ยุคใหม่' ภาวะอีสานใต้ระส่ำ! 'พปชร.-ภท.' รุกหนักจุใจ?

ด้วยการ "เสนอหน้า" ต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และครม.ที่ลงพื้นที่จ.สุรินทร์วานนี้ (19 ส.ค.) แถมคุยโขมงเชียร์แขกจนนึกว่าอยู่พรรคพลังประชารัฐด้วยกันแล้ว?

สรุปได้ความว่า.. ส.ส.ตี๋ใหญ่ บอกว่า "...งบประมาณปี 63 จังหวัดสุรินทร์ได้ไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท ผมยกมือไม่สวนนายกฯ ผมสนับสนุน เพราะประชาชนไม่ได้เลือกผมมาเป็นฝ่ายค้าน แต่เลือกผมมาเป็นผู้แทนราษฎร สิ่งไหนดีผมก็สนับสนุน สิ่งไหนไม่ดีก็ว่ากันไปในสภา”

พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า "..ดีแล้ว อันไหนไม่ดีก็มาบอกกัน"

ส่วนส.ส.ครูมานิตย์กล่าวว่า “ยกมือให้นายกฯ ล้านเปอร์เซ็นต์ ขณะที่มีการลงชื่อขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ผมยังบอกว่า ลงทำบ้าอะไร พวกมึงบ้าหรือเปล่า เขายังไม่ทำอะไร ไปลงชื่อกันแล้ว ไปดูได้เลยไม่มีชื่อผม”

พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันมาถามนายตี๋ใหญ่ว่า ได้ลงชื่อกับเขาหรือเปล่า และถ้ารัฐบาลนี้ไม่ผ่าน รัฐบาลเก่าได้กลับมา..

ส.ส.ตี๋ใหญ่ตอบว่า "นายกฯ อย่ายุบสภา อยู่ให้เกิน 4 ปี" ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า "จะยุบได้ยังไง ยังไม่ทันได้ทำงานเลย"

ทว่า อ่านเกม "3ส.ส.เพื่อไทย" ในสถานการณ์เป็นฝ่ายค้าน ที่ต้องมองถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ในสภาพการของที่พรรคมี "เจ๊หน่อย" สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวเรือใหญ่ ในขณะที่ "นายใหญ่" คนแดนไกลก็เริ่มลดบทบาทลง ดังนั้น อนาคตที่ไม่แน่นอน หากไม่ "แตะมือ" กับพรรคขั้วอำนาจไว้บ้าง เพื่อหาทางหนีทีไล่ คงจะแย่อาจจะหวังพึ่งแต่ "กระแสทักษิณ" ที่เริ่มคลายมนต์ เพราะประชานิยมแบบ "พลังประชารัฐ"

ไม่ประหลาดใจว่า ส.ส.อีสานใต้ พื้นที่ 5 จังหวัด คือ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี จะเริ่มตีตัวออกห่างจาก "ขั้วคนชินวัตร" เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทั้งประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และพลังประชารัฐ สามารถเบียดชิงส.ส.ในหลายเขตมาได้ ย่อมสะท้อนว่า "มนต์รักทักษิณ" เริ่มไม่ขลังแล้ว

ขณะที่ "เจ๊หน่อย" พยายามรีแบรนด์พรรคเพื่อไทยใหม่ ส่งสัญญาณชัดว่า "เพื่อไทยยุคใหม่" เห็นได้ชัดว่า การเปิดตัว "ฟิล์ม รัฐภูมิ‬" เพื่อดึงคนใหม่ๆเข้ามาในพรรค เสมือนหาเสียงกับคนรุ่นใหม่ไปในคราวเดียวกัน

ปัญหาของ "เจ๊หน่อย" คือรู้ว่า ส.ส.เก่าๆในพรรค ถูกดูดถูกดึงด้วยสารพัดเงื่อนไข ยิ่ง "นายใหญ่" เล่นบทลอยแพพรรคฯชั่วคราว ทำให้ส.ส.ที่คิดว่ามีฐานเสียงอยู่บ้าง เริ่มหาทางรอด

ดูตัวอย่าง "เสี่ยลาว" พรศักดิ์ เจริญประเสริฐ อดีตรมต.และส.ส.ศรีสะเกษหลายสมัย เพื่อหวังรักษาพื้นที่เดิมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ยอมพักรักทักษิณชั่วคราว หันมาเสื้อพรรคพลังประชารัฐเพื่อลงพื้นที่รักษาฐานเสียง แต่ตอนเลือกตั้งจริงๆจะลงพรรคไหนค่อยว่ากันอีกที เช่นเดียวกับ ปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชาชน สมัครเป็นสมาชิก พปชร.เต็มตัว เลือกตั้งครั้งหน้า หวังนำทีมเข้าสภายกจังหวัด

ขณะเดียวกัน อย่าลืมว่า "ส.ส.จอมเก๋า" หวั่นกระแส "พรรคอนาคตใหม่" มาแรงแทนที่ "ทักษิณ" ในหมู่คนรุ่นใหม่ที่หวังคนรุ่นใหม่เข้าไปทำหน้าที่แทนคนหน้าเดิมอีกด้วย

แน่นอนว่า การปรับทัพเพื่อไทย ภายใต้การนำของ "เจ้าแม่วังทองหลาง" จะสามารถดึงส.ส.หน้าเก่าในพื้นที่ที่ราบสูง โดยเฉพาะอีสานใต้ได้หรือไม่ ท่ามกลางการ "รุก-ล่า" ของพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทย ที่มีทั้ง "กระสุน-กระแส" และออฟชั่นเรื่องคดีฯอีกด้วย

ว่ากันว่า ช้อปกระจาย.. ขั้วรัฐบาลหวังดึงส.ส.จากฝ่ายค้านมายกมือผ่านร่างกฎหมายต่างๆ หลังแพ้โหวตมาแล้ว 2 ครั้ง งานนี้จึงเป็นการวัดฝีมือ "บิ๊กป้อม-เสี่ยหนู-เจ๊หน่อย" ใครจะดึงหรือยื้อส.ส.ได้ดีกว่ากัน!!