'รอง โฆษก ตร.' เผยพบเบาะแสโจรปล้นร้านทองนาทวี มีมากถึง 10 ราย
"รอง โฆษก ตร." เผยพบเบาะแสโจรปล้นร้านทองนาทวี มีมากถึง 10 ราย หลังก่อเหตุกวาดทองคำเกือบหมดทั้งร้าน ก่อนขับรถหลบหนี ย้ำเร่งตรวจกล้องวงจรปิดไล่ล่า
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายปล้นร้านทอง ในตลาดนาทวี อ.นาทวี ในพื้นที่ สภ.นาทวี จ.สงขลา ว่า คดีนี้ได้รับรายงานจาก ผกก.สภ.นาทวี จ.สงขลา ว่า เมื่อวันที่ 24 ส.ค.62 เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายปล้นร้านทอง พนักงานสอบสวนพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ และฝ่ายสืบสวน จึงได้เขาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเบื้องต้นทราบว่า มีคนร้ายทั้งหมดที่ร่วมกันก่อเหตุประมาณ 10 คนโดยแบ่งกันทำหน้าที่ตามจุดต่างๆ ทั้งบุกเข้าก่อเหตุปล้น ดูต้นทาง จัดเตรียมยานพาหนะ ทั้งนี้ เมื่อเข้าทำการปล้นร้านทอง ก็ใช้อาวุธปืนสงครามข่มขู่เจ้าของร้านและผู้ที่อยู่ภายในร้าน จากนั้นได้ลงมือนำทองภายในร้านไปเกือบทั้งหมดซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบมูลค่าความเสียหาย เพราะต้องรอตัวเลขที่แน่ชัดอีกครั้ง
ทั้งนี้ ภายหลังการก่อเหตุ คนร้ายได้ขับรถหลบหนีผ่านหน้าโรงพยาบาลนาทวี โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้บูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทำการแสวงหาข้อเท็จจริง พร้อมประสานข้อมูลในการสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่มีสื่อออนไลน์ ได้มีการลงข่าวว่า คนร้ายแต่งกายคล้ายทหารนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีคนร้ายบางคนได้แต่งชุดในลักษณะสวมเสื้อโปโลสีเขียว กางเกงยีนส์เท่านั้น
รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า คดีนี้คงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงาน สืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบถึงตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำและกำชับเรื่องการป้องกันอาชญากรรมของทุกกองบัญชาการในทุกพื้นที่ ไม่ให้มีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้น โดยให้มีมาตรการเพิ่มความเข้มข้น ในการออกตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยง จุดล่อแหลม ธนาคาร ร้อนทอง ร้านสะดวกซื้อ ต่างๆ อีกทั้งการทำประวัติบุคคลเฝ้าระวัง การประชาสัมพันธ์ถึงภัยของมิจฉาชีพให้กับประชาชน รวมถึงการป้องกันเหตุดังกล่าว
แต่ถ้าหากเกิดเหตุขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว และดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ เพื่อเยียวยาความเสียหาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว นักลงทุน
ขอบคุณภาพจากเพจ ศูนย์แม่หลวง ปัตตานี