"ทรัมป์"จ่อทำดีลการค้า‘ญี่ปุ่น-อังกฤษ’

"ทรัมป์"จ่อทำดีลการค้า‘ญี่ปุ่น-อังกฤษ’

สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่ยังคาราคาซัง เข้มข้นสุดๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ต่างฝ่ายต่างประกาศเก็บภาษีกันรอบใหม่ ล่าสุด สหรัฐฉวยจังหวะนี้มีข่าวดีกับญี่ปุ่น-อังกฤษ

หนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลี่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เสนอบททัศนะวิจารณ์ในฉบับวันอาทิตย์ (25 ส.ค.) ถึงสงครามการค้าระหว่างสองเขตเศรษฐกิจใหญ่ของโลกที่กำลังบานปลาย ระบุ

“จีนมั่นใจว่าจะทำตามวิถีของตนเองทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี โดยไม่มีวันทิ้งจุดยืนตอบโต้การยั่วยุจากฝ่ายสหรัฐ”

พีเพิลส์เดลีกล่าวด้วยว่า นักการเมืองสหรัฐพยายามทำลายพัฒนาการทางเศรษฐกิจของจีน โดยต้องการใช้กลวิธีกดดันจีนอย่างสูงสุด ซึ่งบรรลุผลเพียงเล็กน้อย สหรัฐจะไม่มีวันชนะสงครามการค้า เพราะเกษตรกรและภาคธุรกิจจะเป็นฝ่ายเผชิญชะตากรรมนั้น

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ประกาศเมื่อวันศุกร์ (23 ส.ค.) ว่ารัฐบาลวอชิงตันจะเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่ม 5% ตอบโต้ที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้นรัฐบาลปักกิ่งประกาศเก็บภาษีสินค้าสหรัฐมูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ถือเป็นการเก็บภาษีเล่นงานกันรอบล่าสุด ยิ่งเพิ่มความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอย

ระหว่างที่กำลังงัดข้อกับจีน สหรัฐก็มีข่าวดีกับญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงกันอย่างกว้างๆ ในการเจรจาการค้าเมื่อวันเสาร์ (24 ส.ค.) ตามเวลากรุงวอชิงตันโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีการค้ากล่าวว่า หลังจากขยายเวลาการเจรจาเป็น 3 วัน เพื่อหารือกับโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) การหารือคืบหน้าไปมากยืนยันได้ด้วยการที่ผู้นำสหรัฐและญี่ปุ่นจะประชุมกันนอกรอบเวทีผู้นำกลุ่มประเทศจี7 ที่จัดขึ้นในฝรั่งเศสขณะนี้ เพื่อหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

จะว่าไปแล้วประธานาธิบดีทรัมป์กับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ค่อนข้างสนิทสนม แต่ทรัมป์อ้างเสมอว่า ญี่ปุ่นได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐ เขาจึงอยากให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีเป็นธรรมมากกว่านี้

เมื่อตัวแทนสองประเทศมาเจรจากันที่กรุงวอชิงตัน สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคและสื่อหลักของญี่ปุ่นรายงานว่าไลท์ไฮเซอร์และโมเตกิเห็นชอบให้ญี่ปุ่นเก็บภาษีสินค้าเกษตรสหรัฐ เท่ากับที่ใช้กับสมาชิกข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี)

เอ็นเอชเครายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยนามระบุ ญี่ปุ่นจะลดภาษีเนื้อสุกรและเนื้อวัวสหรัฐเหลือเท่ากับทีพีพี แต่ยังไม่กำหนดโควตาใหม่สำหรับการนำเข้าเนยและนมพร่องมันเนย

ด้านสหรัฐก็จะยกเลิกภาษีให้สินค้าอุตสาหกรรมญี่ปุ่นหลายชนิด ยกเว้นภาษีรถยนต์ที่รอเจรจากันต่อ เพราะทรัมป์มองว่าการขาดดุลการค้าญี่ปุ่นเป็นปัญหาของสหรัฐโดยทั้งสองฝ่ายคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงรอบสุดท้ายกันได้ภายในเดือน ก.ย.

นอกจากข่าวดีกับญี่ปุ่นแล้วทรัมป์ยังแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (25 ส.ค.)ที่เมืองบียาริตส์ของฝรั่งเศส เคียงข้างนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันว่าสหรัฐกับอังกฤษจะบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้ในเร็วๆ นี้

“เป็นข้อตกลงการค้าที่ใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่เราเคยทำมา”ผู้นำสหรัฐโว ขณะที่นายจอห์นสันย้ำว่า จะไม่นำบริการสุขภาพแห่งชาติมาเจรจา และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันทั้งหมด

ส่วนข้อตกลงการค้าสหรัฐ-อังกฤษจะสรุปกันได้เมื่อใดนั้นทรัมป์กล่าวว่าเร็วๆ นี้ และไม่คิดว่าจะมีปัญหา

นายกฯ จอห์นสันพยายามนำอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป จึงต้องทำข้อตกลงทวิภาคีกับสหรัฐ ตามยุทธศาสตร์ใหม่เดินหน้าตามลำพังของรัฐบาลลอนดอน

สำหรับภารกิจนี้ทรัมป์ถึงกับเอ่ยปากชมนายกฯ อังกฤษ ว่าเป็น “คนที่ใช่”นำอังกฤษออกจากอียู (เบร็กซิท) หลังจากที่สองฝ่ายพบกันอย่างอบอุ่นครั้งแรกในเวทีจี7 ท่ามกลางความตึงเครียดนานัปการ ตั้งแต่การค้าไปจนถึงไฟป่าอะเมซอน

“เขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่น่าทึ่ง” ผู้นำสหรัฐชมเปาะ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า เขาได้ให้คำแนะนำอะไรแก่นายกฯ อังกฤษบ้าง

“ไม่ต้องแนะนำหรอก เขาเหมาะกับงานนี้ ผมพูดมานานแล้ว ทำให้นายกฯ คนก่อนไม่แฮปปี้”ทรัมป์อดไม่ได้ที่จะแขวะอดีตนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์

อย่างไรก็ตาม จอห์นสันกล่าวว่า เขาไม่เห็นด้วยกับสงครามการค้าที่ทรัมป์ทำกับจีน เขาอยากให้การค้าโลกโดยรวมเป็นไปอย่างสันติ เช่นเดียวกับบรรดาผู้นำอียูที่เตือนว่า สงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจจะกระทบเศรษฐกิจโลก เสี่ยงเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย