ผู้เชี่ยวชาญคาดผลผลิตน้ำมันดิบตึงตัวหนุนราคาทะลุ100ดอลล์

นายจอช ยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุนของบริษัทไบซัน อินเทอร์เรสต์ มีความเห็นว่า การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสองแห่งในซาอุดิอาระเบีย จะทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทะยานเพิ่มขึ้นในทันทีช่วง1-2วันแรกของการซื้อขายและเชื่อว่าเมื่อผ่านระยะ1-2วันแรกไปแล้ว สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ราคาน้ำมันดิบอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือสูงกว่านั้น

ขณะที่นายไมเคิล เคิร์น จากเว็บไซต์ออยล์ไพรซ์ มองว่า การโจมตีครั้งนี้อาจทำให้ตลาดโลกเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันดิบฉับพลันถึง 150 ล้านบาร์เรลต่อเดือน ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากระดับที่เป็นอยู่ในขณะนี้ถึง3เท่าตัว จนทำให้ราคาทะยานขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง

รอยเตอร์ส ระบุว่า เหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดิอาระเบียจะส่งผลกระทบต่อประเทศในเอเชียเป็นส่วนใหญ่ื เนื่องจากประเทศในเอเชียเป็นลูกค้ารายใหญ่ของซาอุดิอาระเบีย โดยซาอุดิอาระเบียส่งน้ำมันดิบที่ผลิตได้ประมาณ 80% มาขายให้แก่ประเทศต่างๆในเอเชีย

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดซื้อขายล่วงหน้าวานนี้ (16ก.ย.)ยังคงปรับตัวขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส สหรัฐ ปรับตัวขึ้น 7.99% หรือ 4.38 ดอลลาร์ ปิดที่ราคา 59.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะยานขึ้น 5.45 ดอลลาร์ หรือ 9.05% ปิดที่ราคา 65.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

ซาอุดิอาระเบียกำลังเร่งฟื้นฟูความสามารถในการผลิตน้ำมันดิบที่แหล่งน้ำมันสำคัญหลายแห่ง หลังจากที่เกิดการโจมตีทางอากาศจากเครื่องบินโดรนไม่ทราบสัญชาติิ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของซาอุฯ ลดลงราวครึ่งหนึ่ง

การโจมตีด้วยจรวดที่ถูกยิงมาจากโดรน เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ทำลายแหล่งผลิตน้ำมันหลายแห่งของซาอุดิอาระเบีย และคาดว่าทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุฯ ลดลงราว 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือเกือบ 6% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก