สศช.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 เพื่อผลักดันการพัฒนาเชิงพื้นที่ให้เป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทย
การสัมมนาประจำปีของสำนักงานสภาพัฒนาการเศราฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปี 2562 ชูแนวคิดพัฒนาพื้นที่ไทย : เชื่อมไทย ก้าวไกล เชื่อมโลก โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาปาฐกถาพิเศษ ซึ่งได้เน้นย้ำขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ให้เป็นรูปธรรม เพื่อเกิดการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับปัจจุบันอยู่ในช่วง 5 ปีของแผนยุทธศาสตร์ชาติ ดังนั้นทุกคนต้องร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ เพื่อให้ไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ลดความเหลือมล้ำในสังคม และให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางภูมิภาคนี้ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษาและสาธารณสุข
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมเสวนาหัวข้อ “พัฒนาพื้นที่ไทย เชื่อมไทย ก้าวไกล เชื่อมโลก" ในเวทีสัมมนาประจำปีของ สศช.ว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 มุ่งเน้นการพัฒนาเชิงพื้นที่ทุกภูมิภาค ซึ่งไทยได้เปรียบด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีทรัพยากรที่สร้างมูลค่าได้จึงทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคนี้ได้
ทั้งนี้ การพัฒนาเชิงพื้นที่มุ่งเน้นการเข้าถึงและการเชื่อมโยงเป็นสำคัญ ซึ่งไทยภูมิศาสตร์ที่ดีแต่ต้องเสริมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน รถไฟ สนามบิน โครงข่ายอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงแต่ละภูมิภาค ซึ่งโครงการรถไฟทางคู่จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์สำคัญทั้งการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร รวมถึงการเชื่อมโยงสู่ต่างประเทศ เช่น การพัฒนาท่าเรือระนองเป็นประตูสู่เอเชียใต้
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพัฒนาเชิงพื้นที่มีหัวใจสำคัญที่การเชื่อมไทยกับโลก ซึ่งไทยต้องปรับตัว 2 บริบท คือ 1.การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีหรือดิสรัปชั่น 2.การเตรียมตัวรองรับการปฏิวัติอุตสาหกรรม
สำหรับแนวทางที่ไทยจะเชื่อมโลก คือ 1.การเชื่อมเทคโนโลยีที่ต้องเตรียมรับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี 2.การเชื่อมตลาด ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายเชื่อมกับกลุ่มประเทศในภูมิภาค เช่น ซีแอลเอ็มวีที 3.การเชื่อมโยงการคมนาคม 4.การเชื่อมโอกาสให้ประชาชนมีโอกาสส่งสินค้า
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีแผนพัฒนาระบบขนส่งทางบก ทางอากาศและทางน้ำ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งในแต่ละภูมิภาค เช่น รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 บิน การพัฒนาท่าเรือ โดยสถานีกลางบางซื่อจะเปิดใช้ปี 2564 จะเป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญของไทยจะเชื่อมโยงได้ครอบคลุม ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจรอบพื้นที่
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นำแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มาปรับเป็นแผนยุทธศาสตร์ของบริษัท โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี 2030 และรองรับบุคลากรในปี 2050 และเตรียมความพร้อมบุคคลกรที่จะอยู่กับบริษัทกว่า 30 ปี จึงต้องพัฒนาทักษะรองรับเครื่องจักรกลที่จะแทนแรงงานคน
ทั้งนี้ ในแต่ละภูมิภาคมีการเติบโตและความพร้อมทางเศรษฐกิจแตกต่างกันแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง 2.กลุ่มที่ต้องเร่งพัฒนาในระยะเร่งด่วน 3.กลุ่มที่ยังพัฒนาไม่สมดุล 4.กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งทั้งหมดจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต้องอาศัยบุคลากรที่มีทักษะ โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม และการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน
นางนิรมล เสรีสกุล ผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ มีปัญหามลพิษค่าพีเอ็ม 2.5 มากขึ้นทุกปี ดังนั้นจะทำอย่างไรให้คนเดินมากขึ้นและจำนวนรถลดลง ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจเมือง หากต้องการกระจายความมั่งคั่งสู่เศรษฐกิจฐานราก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นายกฯ แนะให้สนใจ 'เศรษฐกิจ' มากกว่า 'การเมือง'
-นายกฯ กำชับทุกหน่วยเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
-'นายกฯ' แนะใช้ความรู้-คุณธรรม แก้เฟคนิวส์
-นายกฯห่วงน้ำท่วมอุบลฯ สั่งเร่งลดผลกระทบด่วน