ความเข้าใจผิดของอดีตที่เกิดจากอิทธิพลยุคล่าอาณานิคม

ความเข้าใจผิดของอดีตที่เกิดจากอิทธิพลยุคล่าอาณานิคม

ในครั้งนี้จะกล่าวถึงประเทศสมาชิกอาเซียน ที่เชื่อกันว่ายังคงไว้ซึ่งอิทธิพลของอารยธรรมประเทศตะวันตกฝ่ายภาคพื้นยุโรปและประเทศสหรัฐกันบ้าง

ประวัติศาสตร์ของประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน ที่เคยเป็นอาณานิคมของประเทศภาคพื้นยุโรปนั้น น่าจะเริ่มต้นที่ประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เพราะมหาอำนาจสเปนในครั้งนั้น เข้าครอบครองหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ส่วนดัตช์ (ฮอลแลนด์) และโปรตุเกส ที่เป็นมหาอำนาจทางทะเลเช่นกัน เข้าครองหมู่เกาะ ชวา สุมาตรา มาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15

เชื่อกันว่า ในครั้งนั้นเป็นการเข้าครอบครองเพื่อเผยแพร่ศาสนาและเสวงหาทรัพยากรธรรมชาติ เช่นเครื่องเทศและไม้สัก ส่วนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ น่าจะชี้ให้เห็นถึงการแสวงหาดินแดนใหม่สำหรับการขยายอาณาจักรของตนอีกด้วย

หมู่เกาะของเอเชียนั้น ดึงดูดความสนใจของนักล่าอาณานิคมทางทะเล เพราะเป็นที่ที่กองทัพเรือ ของประเทศมหาอำนาจตะวันตกสามารถเข้าครอบครองได้ง่าย มากกว่าการเข้าครอบครองดินแดนที่อยู่ส่วนในของทวีปและสภาพทางภูมิศาสตร์ของหมู่เกาะ คือป้อมปราการชั้นดีในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ดังนั้นประวัติศาสตร์ของการล่าอาณานิคมในยุคแรกจึงเกิดขึ้นในบรรดาดินแดนหมู่เกาะก่อนที่อื่น หมู่ที่จะกล่าวถึงก่อนในครั้งนี้คือ หมู่เกาะฟิลิปปินส์

การถูกครอบครองโดย มหาอำนาจสเปนในครั้งนั้น ทำให้ชาวฟิลิปปินส์ได้รับอิทธิพลจากสเปนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของศาสนา ฟิลิปปินส์ (การตั้งชื่ออาณานิคม เพื่อเป็นเกียรติแก่ พระเจ้าฟิลิปที่ 2 ของสเปน) เป็นดินแดนแรก ๆ ของเอเชียที่ได้รับอิทธิพลของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สำหรับการเมืองการปกครองและระบบกฎหมายในครั้งนั้น สเปนนำเอาระบบของตนเข้ามาประยุกต์ใช้ในอาณานิคมอย่างเต็มรูปแบบจึงพอเชื่อกันได้ว่าเป็นการล่าดินแดน เช่นเดียวกับที่สเปนทำในทวีปอเมริกา

ด้วยเหตุนี้ ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นดินแดนอาณานิคมของสเปนจึงมีการนำเอาระบบการปกครองแบบอาณานิคม รวมถึงระบบการยุติธรรมแบบมีประมวลกฎหมายมาใช้เป็นประเทศแรก ๆ ของเอเชีย และอิทธิพลของประเทศสเปนที่มีต่อฟิลิปปินส์นั้น ก็ยังคงมีอยู่เรื่อยมาเป็นระยะเวลานับร้อยปี วัฒนธรรมสเปนนั้นฝังรากลึกอยู่ควบคู่กับศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกจนทำให้วัฒนธรรมของชาวฟิลิปปินส์ ดูแปลกหูแปลกตาไปกว่าเพื่อนบ้านอาเซียนอื่น ๆ

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของฟิลิปปินส์อีกครั้ง เกิดขึ้นเมื่อประเทศสหรัฐเข้าครอบครองดินแดนของประเทศฟิลิปปินส์ต่อมาจากประเทศสเปน ในครั้งนี้ ประเทศสหรัฐได้นำเอาระบบการปกครอง แบบประธานาธิบดีของตนมาแนะนำให้กับชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งระบบประธานาธิบดีนี้ยังคงถือเป็นสถาบันสำคัญที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญของประเทศฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน

สำหรับระบบการยุติธรรมนั้น ฟิลิปปินส์ใช้รูปแบบที่แตกต่างไปจากประเทศสมาชิกอื่นอยู่เหมือนกัน การผสมผสานระหว่างกฎหมายของประเทศสหรัฐ ปนไปกับระบบประมวลกฎหมายของประเทศสเปนที่เคยใช้มาก่อน และภาษาที่ใช้ในการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลของประเทศนี้ก็เปลี่ยนมาใช้ภาษาอังกฤษเพราะเป็นอิทธิพลของการครอบครองครั้งใหม่โดยประเทศสหรัฐ ก่อนจะมีการครอบครองโดยญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ฟิลิปปินส์จึงเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจประเทศหนึ่งของประชาคมอาเซียนและความไม่เหมือนใครในภูมิภาคนี้นับว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญของประเทศ