พ่อแม่ร่ำไห้รับศพลูก ผอ.เทคนิคประชุมเครียด ลูกศิษย์ตายหมู่13ศพ

ผู้ปกครองเข้าพบผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ รอรับศพลูก หลังเกิดอุบัติเหตุตายหมู่13ศพเมื่อคืนนี้

วันที่ 29 กันยายน 2562 ที่วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ภายหลังจากที่ทราบข่าวอุบัติเหตุหมู่ ที่จังหวัดสมุทรปราการ และพบว่าเป็นเด็กนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ทั้งหมด 13 คน เสียชีวิตในครั้งนี้

นายอักษรศิลป์ แก้วมหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยฯ ได้โทรศัพท์แจ้งคณะครูได้เดินทางเข้ามาประชุมด่วน เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นจริงเท็จมากน้อยแค่ไหน และเมื่อทราบข้อเท็จจริงแล้ว ก็ขอครูอาสาที่จะเดินทางไปรับศพเด็กนักศึกษาที่สมุทรปราการ และส่วนหนึ่งก็ช่วยกันค้นประวัติเด็กนักศึกษาทั้งหมด พร้อมกับการหาเบอร์โทรผู้ปกครองของเด็กทุกคน และได้โทรสอบถามผู้ปกครองของเด็กนักศึกษาที่เดินทางไปฝึกงานที่สมุทรปราการ ซึ่งส่วนใหญ่ทราบเรื่อง และบางส่วนเดินทางมาที่วิทยาลัยฯ เพื่อขอให้ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคได้ช่วยรับศพลูกหลานตนกลับบ้าน และภายหลังจากที่ ผอ.เทคนิค ประสานงานไปทางโทรศัพท์ ได้รับแจ้งว่า มูลนิธิร่วมกตัญญู อาสาจะเดินทางมาส่งศพนักศึกษาทุกคนถึงบ้านฟรี

นายอักษรศิลป์ แก้วมหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ภายหลังจากทราบเรื่องเด็กเทคนิคที่ไปประสบอุบัติเหตุใหญ่ เป็นอุบัติเหตุหมู่ และลูกศิษย์ตนเสียชีวิต ทั้งหมด 13 คน ก็ได้รีบโทรศัพท์หาคณะครู ได้มาประชุม ค้นหาข้อมูลของเด็กที่ไปฝึกงาน เพื่อตรวจสอบหาภูมิลำเนา เพื่อการติดต่อกับผู้ปกครอง ขณะเดียวกันได้มีผู้ปกครอง ที่ทราบเรื่องส่วนหนึ่งจากอำเภอไพรบึง เดินทางมาพบ และขอให้ช่วยรับศพลูกกลับบ้าน
ซึ่งเบื้องต้นได้ประสานงานไป ได้รับคำยืนยันจาก มูลนิธิร่วมกตัญญู ว่าจะขออาสานำศพทั้งหมด เดินทางมาส่งให้ถึงบ้านเรือนของผู้ปกครองทุกคน ขณะเดียวกัน ทางวิทยาลัยตรวจสอบแล้ว เด็กทุกคน ทางวิทยาลัยได้ทำประกันอุบัติเหตุหมู่ให้ทุกคน ก่อนที่จะปล่อยให้ออกไปฝึกงาน ในทุนประกัน 1 แสนบาท และเด็กชุดนี้ขอรับรองว่าเป็นเด็กที่มีความประพฤติดีมาก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนขับรถยนต์ไม่ใช่เด็กวิทยาลัย และอาจจะเป็นการฉลองวันที่จบฝึกงาน จึงเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ทางวิทยาลัยเสียใจมากในเรื่องนี้

ขณะที่ นางภัทรวรรณ ชนกเนตร และนายสมญา ชนกเนตร อยู่บ้านเลขที่ 18 บ้านหนองระเยียว หมู่ที่ 2 ตำบลโนนปูน อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ มารดา - บิดา ของนายเทียนชัย ชนกเนตร น้องนักศึกษา 1 ใน 13 คนที่เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนกับลูกปกติจะโทรศัพท์คุยกันทุกวัน และรู้หมดว่าลูกจะไปไหนบ้างในแต่ละวัน และเมื่อวานก็ทราบว่าจะไปเที่ยวดูหมอลำ เจ้าของอู่อนุญาตแล้ว เพราะจบการฝึกงานพอดี ตนก็เตือนว่า ระวังเรื่องชกต่อยกันหน้าเวทีหมอลำ เตือนลูกในทุกเรื่อง ลูกก็บอกว่าจะระวังและบอกว่าไม่เป็นไร

แต่พอเมื่อคืนกลางดึกทราบเรื่องว่ารถยนต์ที่ลูกนั่งไปประสบอุบัติเหตุ และลูกชายเสียชีวิต ตนเสียใจมากที่สุดในชีวิต ร้องไห้ตลอด ทำอะไรไม่ถูก จึงได้พาสามีตน และญาติ ๆ มาพบ ผอ.เทคนิค เพื่อขอให้ช่วยรับศพลูกชายตนกลับบ้านด้วย ( ร้องไห้ไปเล่าไป ) ลูกชายคนนี้เป็นลูกคนที่สองของตน ปกติเป็นคนฉลาด เก่ง ไม่เกเร เรียนเก่ง ตนมุ่งหวังจะได้พึ่งอาศัยในยามแก่เฒ่า แต่วันนี้สูญเสียลูกไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ ตนไม่ทราบว่าจะทำอะไร สมองมันมืดไปหมดทุกด้าน แต่จะไปรอรับลูกที่บ้าน

รายชื่อเบื้องต้นที่ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต 13 คน คือ 1.นายโชคชัย ทานนท์, 2.นายสุริยน สีกาน, 3.นายนพรัตน์ ไชยรัตน์, 4.นายศุภพัชชา ดอกโศก, 5.นายเทียนชัย ชนกเนตร, 6.นายวีระศักดิ์ กล้าจริง, 7.นายโกวิทย์ สิมลี, 8.นายสุทิน จันทร์สมุทร์, 9.นายสุประชัย วรรณทวี, 10.นายจักรพงษ์ มะโนรัตน์, 11.นายอุดม สานุการ, 12.นายศุภวัฒน์ นาเสมอ และ 13.นายวรายุทธ ไชยปัญญา ซึ่งคนที่ 13 เป็นศิษย์เก่า

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-สุดสลด! เด็กเทคนิคดับ 14 ศพ เหตุกระบะซิ่งพลิกคว่ำย่านกิ่งแก้ว