'ชวน' สั่งสอบ 'มงคลกิตติ์' พกสารทำระเบิดเข้าสภาฯ

'ชวน' สั่งสอบ 'มงคลกิตติ์' พกสารทำระเบิดเข้าสภาฯ

“ชวน” สั่งสอบ “มงคลกิตติ์” พกสารทำระเบิด TNT เข้าสภาฯ “ที่ปษ.ชวน” บอกผิดกฎหมาย แต่ต้องรอผลสอบ ยอมรับกติกาแถลงข่าวยังไม่ออก ด้าน “มงคลกิตติ์” เกรียนได้เรื่อง บอกเครื่องตรวจระเบิดรัฐสภาตรวจจับไม่ได้

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อประเด็นที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ นำสารซึ่งประกอบเป็นวัตถุระเบิดเข้ามายังพื้นที่อาคารรัฐสภา ว่า กรณีดังกล่าวตนขอรับเรื่องไปตรวจสอบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เบื้องต้นยอมรับว่าการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่รัฐสภา มีความเข้มงวดระดับหนึ่ง แต่ไม่เข้มงวดเท่ากับพื้นที่ราชการ เช่น ทำเนียบรัฐบาล เพราะรัฐสภามีบุคคลผ่านเข้า-ออกเยอะ ทั้งส.ส., ผู้ติดตาม และเจ้าหน้าที่ รวมถึงข้าราชการ

157242780117

ต่อจากนั้น นายสุกิจ อัตรโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวว่าจะให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ตรวจสอบกรณีดังกล่าว ทั้งนี้การกระทำของนายมงคลกิตติ์ ท่ีนำสารประกอบวัตถุระเบิดประกอบการแถลงข่าวนั้นถือเป็นความผิดที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามยอมรับว่ากติกาที่กำหนดการใช้สิทธิแถลงข่าวของสมาชิก รวมถึงกรอบจริยธรรมยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ตนเชื่อว่าเมื่อมีกรอบและกติกาใช้บังคับจะทำให้การใช้สิทธิของส.ส.ต่อการแถลงข่าวมีความรัดกุมและเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีของนายมงคลกิตติ์ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นกรณีแถลงถึงประสิทธิภาพของเครื่องตรวจวัตถุระเบิดในสถานที่ราชการซึ่งไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการทำงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร ของสภาผู้แทนราษฎร ได้ตรวจสอบพร้อมระบุด้วยว่าจะเตรียมนำเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดรุ่นใหม่จากบริษัทเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกา มอบให้กับรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 2 เครื่อง เพื่อเตรียมใช้สำหรับการประชุมอาเซียน ช่วงวันที่ 31 ตุลาคม ถึงวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้

157242776257

โดยช่วงหนึ่ง นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า ได้นำสารประกอบวัตถุระเบิด ใช้ประกอบเป็นระเบิด TNT จำนวน 1 กรัม ผ่านเครื่องตรวจวัตถุระเบิดของรัฐสภา ไปยังห้องทำงานของฝ่ายค้านอิสระ ซึ่งตั้งอยู่ใต้ห้องประชุมจันทรา หากอนาคตไม่มีเครื่องตรวจที่มีประสิทธิภาพ อาจมีบุคคลนำวัตถุระเบิดเพื่อก่อการที่ห้องประชุมสภาฯ ได้ ทั้งนี้ทราบข่าวจากหน่วยข่าวความมั่นคงด้วยว่ามีผู้ก่อการร้ายภาคใต้เข้ามาในพื้นที่ภาคใต้ กว่า 100 คน.