กลยุทธ์การลงทุน (4 พ.ย. 62)
พอร์ตหุ้นแนะนำ พ.ย. - ลดหุ้นเชิงรับ... เพิ่มหุ้นตัวหลักเข้าพอร์ต
พอร์ตหุ้นแนะนำ ต.ค. ลดลง 2.3% ... อ่อนแอกว่าตลาดโดยรวมเล็กน้อย
ตลาดหุ้นไทยซื้อขายด้วยความผันผวนสูงและปรับลดลงเล็กน้อยในเดือนตุลาคม ซึ่งถือว่าอ่อนแอกว่าที่เราประเมินไว้ โดยแม้ว่าปัจจัยเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น เช่นทั้งสหรัฐ และจีนต่างก็แสดงท่าทีที่คืบหน้าไปสู่การเจรจาทางการค้า ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ดีเกินคาดในไตรมาส 3/2562 และธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ยังคงเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน แต่ปัจจัยมหภาคภายในประเทศกลับพลิกมาเป็นลบมากขึ้น กล่าวคือมีความกังวลเพิ่มขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและผลประกอบการทั้งสำหรับไตรมาส 3/2562 และปี 2563 ส่งผลให้ SET Index มีช่วงปรับลดลงไปต่ำกว่าระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,600 ทั้งนี้ผลตอบแทนของพอร์ตหุ้นรายเดือนลดลง 2.3% ในเดือนตุลาคม
ซึ่งอ่อนแอกว่าดัชนีฯ ที่ปรับลดลง 2.0% อยู่เล็กน้อย ทั้งนี้นับจากต้นปี 2562 เป็นต้นมา ผลตอบแทนสะสมของพอร์ตหุ้นแนะนำอยู่ที่ 14.2% ซึ่งยังคงสูงกว่าดัชนีฯ ซึ่งปรับขึ้น 3.0% ในช่วงเวลาเดียวกัน
มุมมอง SET เดือน พ.ย. น่าจะฟื้นตัวได้... แต่ครึ่งหลังของเดือนมีลุ้นมากกว่าช่วงครึ่งแรกของเดือน
หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยปรับฐานไปแล้ว ทางเราประเมินว่าตลาดน่าจะฟื้นตัวในเดือนนี้ โดยธีมการลงทุนหลักของเดือนนี้คือ ‘ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะถดถอยได้ลดลงไป ในขณะที่ราคาหุ้นได้สะท้อนภาพมหภาคในประเทศ/ผลประกอบการ บจ. ที่อ่อนแอไปมากแล้ว’ เรามองว่า ผลประกอบการที่ไม่สดใสสำหรับไตรมาส 3/2562 และการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2562 (โดย สศช. ในวันที่ 18 พ.ย.) น่าจะเป็นปัจจัยถ่วงตัวท้าย ๆ ที่ฉุดหุ้นเอาไว้ ก่อนที่ตลาดน่าจะฟื้นได้ครึ่งหลังของเดือนนี้ จากประเด็นข่าวเศรษฐกิจโลกที่เป็นบวกมากขึ้น และแรงหนุนจากสภาพคล่องส่วนเกินจากการที่ฝั่งยุโรป เริ่มใช้มาตรการซื้อพันธบัตรอีกครั้งในวันนี้ ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ earnings yield gap เราประเมินว่ากรณีเลวร้าย ดัชนีฯ ไม่น่าจะลงไปต่ำกว่าระดับ 1,560-1,570 จุด ซึ่งมีความเสี่ยงทางลงไม่มากนัก นอกจากนี้ จากการศึกษาสถิติของตลาดหุ้นพบว่าแรงซื้อจากฝั่งสถาบันในประเทศน่าจะแข็งแกร่งขึ้นในช่วงเดือนพ.ย. และ ธ.ค. ตามกระแสการเข้าซื้อกองทุน LTF เพื่อสิทธ์ิประโยชน์ทางภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้เป็นปีสุดท้ายของกองทุน LTF แบบเก่าซึ่งให้สิทธิการลดภาษีค่อนข้างสูง
หุ้นแนะนำ เดือน พ.ย. เพิ่มหุ้นตัวหลักเข้าพอร์ต และเน้นหุ้นที่งบไตรมาส 3/2562 แข็งแกร่ง + หุ้นมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว
ทางเรามองว่าหุ้นไทยน่าจะฟื้นตัวในเดือนนี้ จากกระแสข่าวบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนกลุ่มเล่นจากหุ้นเชิงรับ (defensive) ไปเป็นหุ้นตัวหลักๆ ที่เชื่อมโยงกับปัจจัยเศรษฐกิจมากขึ้น ดังนั้น เราแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มหุ้นตัวใหญ่ และหุ้นที่น่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2562 ออกมาดีเข้ามาในพอร์ต โดยประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจในเดือน พ.ย. ได้แก่ i) การฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มโรงกลั่นซึ่งมีแนวโน้มกำไรฟื้นตัวแรงในปีหน้า ii) ความแข็งแกร่งของหุ้นเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว iii) หุ้นที่ผลประกอบการไตรมาส 3/2562 น่าจะเติบโตดี YoY และ iv) หุ้นที่มีข่าวบวกเฉพาะตัว เช่นประเด็นที่ MSCI จะประกาศรายชื่อหุ้นเข้า/ออกจากดัชนีฯ ในเช้าวันที่ 8 พ.ย. ตามเวลาประเทศไทย ทั้งนี้หุ้นแนะนำในเดือน พ.ย. ตามข้างต้นประกอบด้วย SPRC*, TOP*, AOT*, AMATA*, BCH*, CPALL* และ SAWAD*
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-กลยุทธ์ลงทุนตลาดหุ้นภาคบ่าย
-กลยุทธ์การลงทุนหุ้นไทย
-บล.กรุงศรี คาดหุ้นไทยวันนี้รับแรงหนุนเฟดลดดบ
-หุ้นไทยวันนี้คาดเคลื่อนไหวแดนลบ
-จับตาหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ1630 - 1645 จุด