สหรัฐเริ่มไต่สวนเพื่อถอดถอน ‘ทรัมป์’ แบบเปิดครั้งแรก
สหรัฐเริ่มกระบวนการไต่สวนถอดถอน ‘ทรัมป์’ แบบเปิดครั้งแรก ประเดิมด้วยการเข้าให้การของเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐประจำยูเครนและรองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการยุโรปและยูเรเชีย
เจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯ สองคน ขึ้นให้การต่อคณะกรรมการของรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (13พ.ย.) ในกระบวนการสืบสวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยทั้งสองคนกล่าวตรงกันว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ พยายามสร้างช่องทางที่ไม่ปกติ เพื่อทำข้อตกลงกับรัฐบาลยูเครนเพื่อให้ช่วยสืบสวนคู่แข่งทางการเมือง
นายวิลเลียม เทย์เลอร์ เอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเครน และนายจอร์จ เคนท์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการยุโรปและยูเรเชีย กล่าวว่า นายรูดี จูลิอานี อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก คือผู้ทำหน้าที่แทน ปธน.ทรัมป์ ในการติดต่อกับรัฐบาลต่างชาตินอกเหนือจากกิจการของกระทรวงการต่างประเทศ และเป็นผู้สานสัมพันธ์ระหว่างกรุงวอชิงตันกับกรุงเคียฟให้กับทรัมป์
นักการทูตทั้งสองคน กล่าวว่า นายจูลิอานี พยายามกดดันให้ยูเครนเริ่มการสืบสวนอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน และบุตรชายคือนายฮันเตอร์ ไบเดน ที่เคยทำงานกับบริษัทแก๊สธรรมชาติในยูเครน ซึ่งเวลานี้นายโจ ไบเดน เป็นผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังมีคะแนนนำ
นอกจากนี้ นายจูลิอานี ยังพยายามผลักดันให้มีการสืบสวนในประเด็นที่ว่า ยูเครนเป็นฝ่ายแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2559 ไม่ใช่รัสเซีย
นายเทย์เลอร์ กล่าวต่อคณะกรรมาธิการสหรัฐฯ ว่า เจ้าหน้าที่ของตนได้ยินเสียงประธานาธิบดีทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์กับทูตสหรัฐฯ ประจำสหภาพยุโรปชื่อนายกอร์ดอน ซอนด์แลนด์ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. เรื่องที่ผู้นำสหรัฐฯ ขอให้ยูเครนช่วยในการสืบสวนว่านายไบเดนพยายามใช้ตำแหน่งทางการเมืองในสมัยนั้น ช่วยให้ไม่มีการสืบสวนการกระทำผิดของบุตรชายของเขาหรือไม่
โดยก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ปธน.ทรัมป์ ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน เพื่อกดดันในเรื่องเดียวกันนี้
การสืบสวนกรณีที่เกิดขึ้น เชื่อมโยงไปถึงเรื่องที่ ปธน.ทรัมป์ ระงับการให้เงินช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 391 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน เพื่อนำไปใช้ต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียด้วย
นายเทย์เลอร์ กล่าวว่า มีชาวยูเครนจำนวนมากต้องล้มตายเพราะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และว่าท่าทีของ ปธน.ทรัมป์ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าให้ความสำคัญกับการสืบสวนนายไบเดน มากกว่าความชวยเหลือทางทหารแก่ยูเครน