สภาฯ ได้ฤกษ์ถกญัตติตั้งกมธ.ศึกษา 'กัญชา-กัญชง-กระท่อม'
“สภาฯ” ได้ฤกษ์ถกญัตติตั้งกมธ.ศึกษา “กัญชา-กัญชง-กระท่อม” เชื่ออาจกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ลดนักโทษในเรือนจำกว่า 5 พันคน ด้าน “สมศักดิ์” ยันเตรียมปลดล็อคหลังเสนอกฏหมายให้ ครม.ถอน “กระท่อม” ออกจากบัญชียาเสพติด
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 17.00 น. ที่รัฐสภาเกียกกาย มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ ในวาระพิจารณากลุ่มญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา การใช้ และแก้ปัญหา รวมถึงตรวจสอบผลกระทบการใช้กัญชา กัญชง กระท่อม อย่างเป็นระบบ รวม 6 ญัตตินั้น นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่จะปลดล็อคเพื่อใช้ประโยชน์จากกัญชา ซึ่งทั่วโลกที่ทำธุรกิจกัญชามีผลสำรวจเมื่อปี 2017 พบว่า ทำมูลค่าสูงถึง 6 ล้านล้านบาทต่อปี ตนเชื่อว่าหากการปลดล็อคกัญชาเกิดขึ้น อาจทำให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ซึ่งหากมีการส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องให้ความรู้กับเกษตรกรด้วย อย่างไรก็ตาม ตนสนับสนุนให้รัฐออกแบบและกลไกควบคุมกัญชา โดยพิจารณาโมเดลของต่างประเทศ และขอให้พิจารณาปลดล็อคกัญชาเพื่อประชาชนทุกคน ไม่ใช่เฉพาะนายทุนเท่านั้น
นายเท่าพิภพ กล่าวอีกว่า การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ทั้งกัญชาและกัญชงซึ่งรัฐบาลเตรียมผลักดันนั้น ตนยังสงสัยว่าจะเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงหรือไม่ และหากจะมีการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ เช่น สูบ เหมือนที่ต่างประเทศดำเนินการนั้น ต้องพิจารณาโมเดลที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย อาทิ การสกัดเพื่อเป็นวัตถุดิบประกอบการทำอาหาร หรือเพื่อการท่องเที่ยวนั้น หากต้องการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว ควรจัดเป็นโซนนิ่ง เช่น ที่จ.หนองคาย เลย หรือนครพนม เพื่อพักผ่อนและทำให้ถูกต้อง รัฐก็จะได้ประโยชน์จากการจัดเก็บภาษี และได้รับประโยชน์จากการลดจำนวนนักโทษในเรือนจำกว่า 5,000 คนที่รับโทษเพราะมีกัญชาในครอบครอง
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ปัจจุบันพบว่าประชาชนใช้ใบกระท่อมเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความสดชื่นและความตื่นตัว ซึ่งแนวทางที่ควรพิจารณาคือ การลดความเดือดร้อนของประชาชนที่ถูกตำรวจจับเพราะครอบครองใบกระท่อม จำนวน 5-10 ใบ แต่ต้องเสียค่าปรับ 10,000 บาท ทั้งนี้ ชาวบ้านที่ถูกจับนั้นเป็นบุคคลที่หาเช้ากินค่ำ ดังนั้น กรรมาธิการฯ ที่จะมีการตั้งขึ้นจึงควรพิจารณาประเด็นดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนด้วย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม อภิปรายว่า ขอบคุณสมาชิกที่ให้ความสนใจเรื่องการปลดล็อกใบกระท่อม โดยเฉพาะนายเทพไท เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรณีที่กระทรวงยุติธรรม เพราะเราได้เสนอเรื่องการปลดล็อกกระท่อมเข้าครม.ไปแล้ว ส่วนเรื่องข้อจำกัดที่มีอยู่รวมถึงเรื่องประะกาศข้อห้ามที่เป็นตัวบทกฎหมาย ที่เกี่ยวกับกระทรวงอื่นๆ อาทิ ประกาศบางฉบับของกระทรวงสาธารณสุขเรื่องยาเสพติดให้โทษนั้น ล่าสุดตนได้หารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุขแล้ว นายอนุทินมีเเนวโน้มเห็นด้วย ยืนยันขอให้สบายใจได้ เพราะหลังจากนายอนุทินเดินทางกลับมาจากภารกิจที่ต่างประเทศ ทั้งสองกระทรวง จะทำเอ็มโอยู ในวันที่ 27 ธันวาคม นี้เพื่อศึกษาและปลดล็อกใบกระท่อม เพราะสมาชิก ส.ส.หลายยุคหลายสมัย ได้ศึกษาการปลดล็อกพืชใบกระท่อมมาเป็นลำดับ นอกจากนี้ ในเวทีโลกอาทิ ยูเอ็น ก็ไม่ได้ประกาศว่ากระท่อมเป็นยาเสพติด อีกทั้ง WHO องค์การอนามัยโลก ยังระบุว่า กระท่อมเป็นยาที่บางประเทศใช้รักษาคนติดฝิ่น เช่นในประเทศฟินด์เเลนด์ ตนจึงขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุน และยืนยันว่าจะเร่งรัดให้ถูกต้องรวดเร็ว และเหมาะสมที่สุด