'ชัยวัฒน์' ร้องขอความเป็นธรรม 'อสส.' จี้รวบรวมหลักฐาน 'คดีบิลลี่' เพิ่ม
"ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" ร้องขอความเป็นธรรม "อัยการสูงสุด" ขอรวบรวมหลักฐาน "คดีบิลลี่" เพิ่ม ชี้ปมกระดูกตรวจดีเอ็นเอใหม่
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อายุ 56 ปี ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ผอ.ทสจ.) ปัตตานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานระหว่างปี 2551-2557 ผู้ต้องหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้าย และร่วมกันฆ่าอำพรางศพ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ อายุ 31 ปี นักเคลื่อนไหวชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2557 พร้อมนายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความ เดินทางไปยื่นหนังสือถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ร้องขอความเป็นธรรมอัยการในการสั่งคดีดังกล่าว
ภายหลังจากที่ช่วงเช้านายชัยวัฒน์ ได้เดินทางไปรายงานตัวศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตามเงื่อนไขระหว่างการประกันตัวชั้นฝากขัง โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนรับหนังสือไว้ภายหลังการยื่นหนังสือ นายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความของนายชัยวัฒน์ ระบุว่า การยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมนั้น ได้ยื่นในนามของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ซึ่งเราได้กล่าวถึงประเด็นตั้งข้อสงสัยในวัตถุพยาน เช่น กระดูกที่ตรวจพบจากแม่น้ำนั้นซึ่งเป็นประเด็นเดียวกับที่นายชัยวัฒน์เคยให้สัมภาษณ์มาตลอดตั้งแต่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีมา โดยการร้องขอความเป็นธรรมนั้นเราไม่ได้เฉพาะเจาะจงให้สอบสวนพยานบุคคลใดเพิ่มเติม แต่เราตั้งข้อสังเกตุให้อัยการพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับนายชัยวัฒน์และกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีจะต้องเดินทางไปรายงานตัวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอีกครั้งในวันที่ 23 ม.ค.นี้
ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกอัยการ กล่าวว่า สำหรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าวตนได้เรียนให้อัยการสูงสุดทราบแล้ว ซึ่งประเด็นที่ร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาให้อัยการพิจารณาคือ เรื่องที่ระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวนดีเอสไอในการรวบรวมพยานหลักฐาน จึงขอให้อัยการพิจารณาเรื่องการรวบรวมวัตถุพยานใหม่ โดยขอให้สั่งการเพิ่มเติมการงมหาชิ้นส่วนกระดูกในแม่น้ำเพื่อตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเพิ่มเติม ซึ่งประเด็นร้องขอความเป็นดังกล่าวก็ต้องรอให้คณะทำงานอัยการพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายางนว่า สำหรับคดีกล่าวหานายชัยวัฒน์ และลูกน้องรวม 4 คน ประกอบด้วยนายบุญแทน บุษราคำ พนักงานพิทักษ์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.) สาขาเพชรบุรี ผู้ต้องหาที่ 2 (เมื่อเดือน ก.ย.62 มีคำสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติราชการ สบอ.4 สาขาสุราษฎร์ธานี) , นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศพนักงานพิทักษ์ป่า สบอ.3 (เมื่อเดือน ก.ย.62 มีคำสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติราชการ สบอ.1 สาขาสระบุรี) ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ลูกจ้างชั่วคราว ขณะนี้อยู่ระหว่างระยะฝากขังครั้งที่ 6 ตั้งแต่วันที่ 11 -22 ม.ค.นี้ โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ กำหนดนัดให้ผู้ต้องหาทั้งสี่ มารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 23 ม.ค.นี้ อย่างไรก็ดี คดีนี้สามารถฝากขังผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 7 ผลัดๆละ 12 วัน รวมเวลา 84 วัน ดังนั้นจึงเหลือระยะฝากขังกลุ่มนายชัยวัฒน์อีก 12 วัน จนถึงวันที่ 3 ก.พ.63