ตร.เผยคดีชิงทองฆ่า 3 ศพลพบุรี คืบหน้ากว่า 70 %

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) - พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงคดีชิงทองกลางห้างสรรพสินค้า จ.ลพบุรี ว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปพอสมควร สามารถคัดแยกคัดกรองกลุ่มบุคคลที่คิดว่าไม่เกี่ยวข้องออกไปแล้ว แต่ยังมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่อยู่ในข่ายมีศักยภาพในการลงมือก่อเหตุ หรือเป็นคนร้าย ส่วนประเด็นที่สื่อถามกันว่า ประเด็นเรื่องมีข่าวหลุดออกมาเรื่องจำนวนกระบอกของอาวุธปืน และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนิติวิทยาศาสตร์ ต้องขอเรียนว่า ผมก็ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ไปให้ข่าว ในส่วนของการทำงานนั้น มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า มีช่องทางในการให้ข่าวอยู่ไม่กี่คน แล้วเรื่องของการให้ข่าวนั้น เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งผู้ให้ข่าวที่ได้รับมอบหมาย และผู้เกี่ยวข้อง

ดังนั้น จึงอยากจะฝากว่า ขอให้สื่อมวลชนอดใจรออีกสักนิดหนึ่ง เพราะขณะนี้ผ่านไป 5 วันแล้ว ถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก แต่บอกไม่ได้ว่าทำอะไรไปบ้าง เอาเป็นว่าประเด็นที่สื่อสนใจหรือสงสัย เราได้ทำไปแล้ว ทั้งนี้ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดลพบุรีนั้นอยู่ในพื้นที่ ท่านตอบคำถามไม่ไหว จึงขอเรียนว่า ในสิ่งที่อยากรู้ทั้งประเด็นคนร้ายเป็นบุคคลธรรมดา หรือเป็นบุคคลในเครื่องแบบ ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าเป็นคนร้ายก็จับทั้งนั้น ถ้ารู้ชัดเจน ก็จะออกหมายจับดำเนินการได้จับอยู่แล้ว ไม่มีเกรงกลัวผู้มีอิทธิพล นั่นคือสิ่งที่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้คำมั่นเอาไว้

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของการติดตามจับกุมตัวคนร้าย มีหลายหน่วยงานในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเอง หน่วยคอมมานโด หรือหน่วยอะไรก็ตาม ทุกคนได้ลงไปบูรณาการร่วมกัน เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจ ทราบว่าวันนี้ในช่วงเย็นจะมีการติดตามสถานการณ์ที่ จ.ลพบุรี ถ้ามีอะไรคืบหน้า เนื่องจากว่าหลักการทำงานเมื่อมีการรับงานไป ในช่วงกลางคืนก็จะไปทำงาน ในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ก็จะเอาการบ้านที่ให้ไปมาส่งผู้บังคับบัญชา แล้วมีการอัพเดตกัน ก็น่าจะมีความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีความคืบหน้าไป 60-70 เปอร์เซ็นแล้ว เมื่อถามว่าคดีนี้มีความยากขนาดไหน

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ต้องบอกว่ามีความยาก ถ้าง่ายก็จับได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว ทั้งการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล หลายๆ ส่วน ได้มีการระดมนักสืบมา เราไม่ได้มีความขัดแย้งกันอะไรภายใน เราทำงานเป็นเอกภาพ มันมีความยาก มีโจทย์ของมันอยู่ เพราะฉะนั้นเอาเป็นว่าเรื่องนี้จะมีคำตอบให้ทุกคน ขอให้เชื่อมั่นในการทำงาน เมื่อท่านลงไปดูเองแล้ว เอานักสืบระดับพระกาฬ ก็เห็นอยู่แล้วว่าใครทำอะไรบ้าง แต่ในบางอย่างนั้น ในส่วนของตัวผมเอง ผมคงไม่สามารถ ถึงแม้ผมจะรู้ผมก็ไม่พูดในเรื่องที่ทำแล้ว คนร้าย หรือคนที่ให้ที่พักพิงคนร้าย จะเอาไปใช้เป็นประโยชน์กับตัวเขาเอง มันพูดไม่ได้ อยากจะพูดใจจะขาดถ้ารู้

"อยากจะฝากในเรื่องเฟคนิวส์ทางโซเชียลมีเดีย ด้วยว่า คนนี้เป็นคนร้าย เห็นไหมจากเด็กคนหนึ่ง อยู่ดีๆ มีใครก็ไม่ทราบอุตริเอาภาพไปขึ้นว่าเป็นคนร้าย เป็นคนที่ต้องการตัว มีการทำลิ้งก์ชาร์จ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขาคืออะไร มันไม่สนุก ผู้ที่ใช้โทรศัพท์ในการส่งข้อความ ให้คิดสักนิดหนึ่ง ก่อนที่จะทำอะไรแบบนี้ ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวท่านเอง หรือญาติของท่าน ท่านจะไม่รับรู้ความรู้สึก ท่านต้องรู้สึกว่า วันที่ท่านไปพูดคุยกับญาติคนตายนั้น มีความรู้สึกเสียใจ อย่าเอาความตายของคนอื่นมาล้อเล่น และขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงาน " พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุ