ข่าวสหรัฐเดินหน้ารีดภาษีจีน กดดันหุ้นวอลล์สตรีทปิดไร้ทิศทาง
หุ้นวอลล์สตรีท ปิดตลาดวันอังคาร (14ม.ค.) ไร้ทิศทางหลังมีข่าวว่าสหรัฐยังคงมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ ไปอย่างน้อยเดือนพ.ย.
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 32.62 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 28,939.67 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 ลดลง 4.98 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 3,283.15 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 22.60 จุด 0.24 % ปิดที่ 9,251.33 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุน คาดหวังว่าข้อตกลงการค้าเฟส1ระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งมีกำหนดลงนามกันในวันพุธ(15ม.ค.)ตามเวลาสหรัฐจะลุล่วงด้วยดี หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า สหรัฐจะยังคงมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ามากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ต่อไปหลังเดือนพ.ย.ปีนี้ ซึ่งรายงานข่าวนี้ มีขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้าที่คณะผู้แทนของสหรัฐและจีนมีกำหนดลงนามในข้อตกลงการค้าบางส่วน ซึ่งทางวอชิงตันยินยอมจะไม่กำหนดมาตรการรีดภาษีจีนเพิ่มเติมและลดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนลงราวๆ 120,000 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน มีรายงานผลประกอบการที่ผสมผสานของบรรดาสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ เช่นเจพีมอร์แกนเชส และซิตีกรุ๊ปที่ปรับขึ้น แต่เวลส์ฟาร์โก ดิ่งลงเกือบ 5% หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย.
ดัชนี ซีพีไอทั่วไปยังคงได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานและอาหารและเมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอทั่วไปเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนพ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีซีพีไอทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบรายปี
อ่านข่าว-ข่าวสหรัฐเดินหน้ารีดภาษีจีนกดดันหุ้นวอลล์สตรีทปิดไร้