สธ.สงสัยผู้ป่วยติด 'โคโรน่าพันธุ์ใหม่ 2019' รายที่ 2 ในไทย รอผลแล็บยืนยัน

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 16 ม.ค. ที่กรมควบคุมโรค นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยกล่าวถึงกรณีที่องค์การอนามัยโลกหรือฮูมีความเป็นห่วงว่าไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ระบาดในพื้นที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ทางตอนกลางของจีนจะติดต่อจากคนสู่คนว่า ในทางทฤษฎีไม่มีอะไรแน่นอน แต่การจะระบุอย่างไรต้องเป็นเอกสารเผยแพร่อย่างเป็นทางการจากฮูประจำประเทศจีน อย่างไรก็ตาม หลักการทางวิชาการ การติดต่อจากคนสู่คนก็มีความเป็นไปได้ แต่ทางการจีนยังไม่มีรายงานในเรื่องนี้ออกมา

“สำหรับประเทศไทยเพิ่งเจอผู้ป่วยที่ยืนยันติดเชื้อไวรัสนี้เพียง 1 ราย และคนที่เดินทางมาในเที่ยวบินเดียวกันซึ่งนั่งใกล้ชิดรวมถึงคนในครอบครัว ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์(ห้องแล็ป)ก็ไม่พบเชื้อไวรัสชนิดนี้ จึงจะระบุว่าติดเชื้อจากคนสู่คนง่ายก็ไม่ใช่ แต่จะบอว่าติดต่อไม่ได้ก็ไม่ได้ เพราะอนาคตก็ไม่แน่ เพราะไม่ได้มีการประกาศจำกัดการเดินทางจากองค์กรระหว่างประเทศ และตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ ระบุว่าห้ามนำเรื่องของโรคมาเป็ยข้ออ้างในการจำกัดการเดินทาง” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป คร. กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่ามีผู้ป่วยที่อาจจะติดเชื้อไวรัสนี้เป็นรายที่2ในประเทศไทยว่า ผู้ป่วย 1 รายที่ฝ่ายเฝ้าระวังควบคุมโรคกำลังให้ความสนใจ เป็นผู้ป่วยหญิง ชาวจีน เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น โดยเมื่อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิผ่านด่านคัดกรองพบว่ามีไข้ จึงนำเข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2563 ซึ่งขณะนี้ผ่านไป 3 วัน จึงยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วนที่จะยืนยันได้ว่าติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไม่ เพียงแต่ผลการตรวจเชื้อยืนยันทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์(ห้องแล็ป)เบื้องต้นมีความผิดปกติ โดยเป็นไวรัสตระกูลโคโรน่า แต่จะต้องรอตรวจเชื้อเพื่อยืนยันซ้ำว่าเป็นสายพันธุ์ย่อยอะไร ซึ่งผลจะออกในวันที่ 17 ม.ค.2563 เนื่องจากไวรัสตระกูลโคโรน่าที่รู้จักตอนนี้มี 6 สายพันธุ์ย่อย โดย 2 สายพันธุ์มีความรุนแรง คือซาร์สและเมอร์ส ส่วนอีก 4 สายพันธุ์ย่อยไม่รุนแรง บางสายพันธุ์ก่อให้เกิดโรคไข้หวัด ขณะนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ ซึ่งจริงๆป่วยก่อนเดินทางมาไทย 2 สัปดาห์แล้ว เมื่ออาการดีขึ้น จึงคิดว่าเดินทางท่องเที่ยวได้

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า มาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรค มีการเพิ่มความข้มข้นขึ้นอีกขั้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยกรมได้ประสาน 2 สายการบิน คือแอร์เอเชีย และไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ ขอให้มีการคัดกรองผู้โดยสารจากเมืองอุ่ฮั่นที่จะเดินทางมาประเทศไทยตั้งแต่ต้นทาง หากพบว่ามีอาการป่วยขอให้ห้ามเดินทาง โดยที่สายการบินจะเลื่อนตั๋วการเดินทางให้ผู้โดยสาร สำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น ขอให้หลีกเลี่ยงการไปที่ตลาด สถานพยาบาลหากไม่มีความจำเป็น เลี่ยงการคลุกคลีกับสัตว์ รวมถึง ผู้ป่วย ที่สำคัญควรพกหน้ากากอนามัยไปด้วย และสวมเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้ป่วยไอ จาม และกรณีที่เพื่อนชาวจีน โดยเฉพาะจากเมืองอู่ฮั่นเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วพบว่ามีอาการของโรคทางเดินหายใจและมีไข้ ขอให้แจ้งให้เข้ารับการรักษาและแจ้งประวัติให้ชัดเจน ทั้งนี้ สถานการณ์ในประเทศจีนปัจจุบัน รายงานล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2563 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 จำนวน 41 ราย เสียชีวิต 1 รายโดยเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวเดิม ร่างกายไม่แข็งแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 17 ม.ค.2563 เวลา 8.30 น.นพ.สุขุม กาญจนพิมายปลัดกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วยนพ.สุวรรณชัย จะแถลงข่าว“สถานการณ์ผู้ติดเชื้อปอดอักสบ จากอู่ฮั่น” และเวลา 09.00น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.)พร้อมด้วยนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ จะเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เตรียมความพร้อมกรณีโรคปอดอักเสบ /สงสัยปอดอักเสบจากเชื้อ Novel Coronavirus 2019