วิธีไหว้เจ้าเสริมเฮง ‘ตรุษจีน 2563’ จัดครบตั้งแต่เช้ายันดึก!
เปิดคู่มือขั้นตอนการไหว้เจ้า “ตรุษจีน” ทั้งการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้ให้ทานสัมภเวสี และที่สำคัญคือการไหว้เทพเจ้า “ไฉ่ซิงเอี้ย” เทพแห่งโชคลาภที่จะเสด็จมาในวันตรุษจีนแค่ปีละครั้งเท่านั้น!
ในช่วงเทศกาล “ตรุษจีน” จะประกอบไปด้วย 3 วันสำคัญ คือ วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว(วันขึ้นปีใหม่จีน) โดยเฉพาะ "วันไหว้" พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนและคนจีนทั่วโลกให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะด้วยวิถีชีวิตที่ทำอาชีพค้าขายเป็นหลักจึงมีความเชื่อเกี่ยวกับเทพและการขอพรเรื่องโชคลาภ โดยในวันตรุษจีนของแต่ละปีชาวจีนจะมีการตั้งโต๊ะไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิงเอี้ย) กันทุกปี ตามความเชื่อที่ว่าองค์เทพไฉ่ซิงเอี้ยจะดลบันดาลให้ทำมาค้าขึ้น ทำธุรกิจได้ราบรื่น เจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง เงินทองไหลมาเทมา เป็นต้น ซึ่ง “วันไหว้” ของปีนี้ตรงกับวันที่ 24 มกราคม 2563
นอกจากการไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยแล้ว ยังมีธรรมเนียมการไหว้สิ่งอื่นๆ ในวันตรุษจีนด้วย ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวว่าสะดวกไหว้แบบไหนบ้าง ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว แต่ถ้าใครอยากไหว้ให้ครบสูตรตั้งแต่เช้ายันดึก เรามีคำแนะนำสำหรับการไหว้เจ้า “ตรุษจีน 2563” มาฝากกัน โดยหากต้องการไหว้แบบชุดใหญ่เพื่อเสริมความเฮงและความเป็นสิริมงคลในวันตรุษจีนนั้น ควรตั้งโต๊ะไหว้ทั้งหมด 4 รอบด้วยกัน ได้แก่
1. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วงเช้ามืด
เริ่มต้นด้วยการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ไป๊เล่าเอี๊ย) ในช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00-07.00 น. ของวันที่ 24 มกราคม 2563 เป็นการไหว้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทพเทวดาผู้คุ้มครองบ้านเรือน ที่มาปกปักดูแลให้เจ้าบ้านอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข หลังจากไหว้เสร็จ รอสักครู่จากนั้นให้เผากระดาษเงินกระดาษทองตามประเพณี แต่เนื่องจากช่วงนี้มีการรณรงค์ไม่ให้เผากระดาษและงดเผาขยะ เพื่อป้องกันฝุ่นพิษ PM2.5 จึงควรงดเผาหรือเผาเล็กน้อยพอเป็นพิธีก็พอ
ของไหว้ : เนื้อสัตว์ต้มสุก(ซาแซ) 3 อย่าง หรือ 5 อย่าง (โหงวแซ) เช่น ไก่ เป็ด หมู ฯลฯ ต่อด้วยผลไม้มงคล 5-7 อย่าง เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปในการไหว้ 5 ดอก
2. ไหว้บรรพบุรุษ ช่วงสาย
การไหว้บรรพบุรุษ (ไป๊เป้บ๊อ) เป็นการไหว้เพื่อระลึกถึงญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีตามคติความเชื่อของชาวจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เวลาประมาณ 10.00-11.00 น. ของวันที่ 24 มกราคม 2563 หลังจากไหว้แล้วรอจนธูปหมด จากนั้นทุกคนในครอบครัวก็จะนำของไหว้มารับประทานร่วมกันและแจกจ่ายแบ่งปันเพื่อนบ้าน
ของไหว้ : เนื้อสัตว์ต้มสุก 3-5 อย่าง (ซาแซหรือโหงวแซ) เหมือนการไหว้ช่วงเช้า และให้เพิ่มอาหารอื่นๆ ที่บรรพบุรุษชอบหรืออาหารที่มีความหมายมงคล เช่น อาหารจานเส้น อาหารจานปลา อาหารที่มีปลาหมึกแห้ง และเมนูซุปใสหรือแกงจืด เป็นต้น ขนมมงคล เช่น จันอับ ขนมถ้วยฟู ขนมเข่ง ขนมเทียน ซาลาเปา ฯลฯ ผลไม้มงคล และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปในการไหว้ 3 ดอก
ข้อควรระวัง : คนจีนไม่นำเต้าหู้ขาวมาไหว้วันตรุษจีน เนื่องจากสีขาวสำหรับชาวจีนเป็นสีแห่งความโศกเศร้า และของไหว้ไม่ควรเป็นอาหารที่มีรสเผ็ด รสขม และผลไม้ที่มีหนาม เพราะจะทำให้ชีวิตมีอุปสรรคขวากหนามไม่ราบรื่น
3. ไหว้ทำทานสัมภเวสี ช่วงบ่าย
การไหว้ทำทานแก่ผีไม่มีญาติหรือสัมภเวสี (ไป๊ฮ้อเฮียตี๋) จะไหว้ตอนบ่ายเวลาประมาณ 14.00-16.00 น. ของวันที่ 24 มกราคม 2563 พอไหว้เสร็จ รอสักครู่ จากนั้นให้จุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปให้หมด และเพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับตรุษจีน
ของไหว้ : อาหารต่างๆ ที่เหลือจากการไหว้รอบเช้าและรอบสาย ข้าวสวย ขนมต่างๆ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปในการไหว้เพียง 1 ดอกเท่านั้น
4. ไหว้ “ไฉ่ซิงเอี้ย” เทพแห่งโชคลาภ ช่วงดึก
สำหรับใครที่อยากไหว้เสริมดวงและเพิ่มโชคลาภ ต้อนรับความเฮงในวันตรุษจีนปีหนูทองปีนี้ ก็แนะนำให้ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เป็นการไหว้ครั้งที่ 4 เพิ่มเข้ามา โดยฤกษ์ในการไหว้คือช่วงกลางดึกของคืนวันสิ้นปี ก่อนจะย่างเข้าตรุษจีน ระหว่างเวลา 23.00-01.00 น. (คืนวันที่ 24 มกราคม คาบเกี่ยวไปยังวันที่ 25 มกราคม 2563) โดยมีความเชื่อว่าการไหว้เทพไฉ่ซิงเอี้ยจะทำให้เกิดโชคลาภและร่ำรวยตลอดปี
ของไหว้ : รูปภาพหรือรูปปั้นขององค์ไฉ่ซิงเอี้ย, แจกันดอกไม้สด 1 คู่, เทียนแดง 1 คู่, กระถางธูปและธูปสำหรับไหว้, น้ำชา 5 ถ้วย, ขนมอี้(สาคูแดง) 5 ถ้วย หรือข้าวสวย 5 ถ้วย, ขนมจันอับ, น้ำชา 5 ถ้วยเล็ก, ผลไม้มงคล 5 อย่าง เช่น ส้ม แอปเปิ้ลแดง องุ่นแดง กล้วยหอมทอง สับปะรด ฯลฯ, เจไฉ่ 5 อย่าง เช่น ดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้ วุ้นเส้น เห็ดหอม เห็ดหูหนู และกระดาษเงินกระดาษทอง
วิธีการไหว้ : ให้ผู้ไหว้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก จุดธูป 3 ดอก 5 ดอก 9 ดอก หรือ 12 ดอกก็ได้ แล้วกล่าวคำสวดมนต์ไหว้สักการะ ดังนี้ “นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ” (3 จบ) จากนั้นสวดบทสักการะว่า “โอม ชัมภาลา จาเลนไน เยโซฮา” (สวด 3 จบ 5 จบ 9 จบ หรือ 12 จบก็ได้) จากนั้นให้กล่าวชื่อและนามสกุลของตัวเอง และเรื่องที่จะขอพร จากนั้นนำกระดาษเงินกระดาษทองไปเผาแล้วให้ผู้ใหญ่ในบ้านถือรูปภาพหรือรูปปั้นไฉ่ซิงเอี้ยพร้อมกระถางธูปเข้าบ้าน เป็นการเชิญเทพเข้าบ้าน และของไหว้ก็ห้ามทิ้งเพราะถือเป็นของมงคลให้นำไปแบ่งกันรับประทานในครอบครัว
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก อ.ช้าง ทศพร ศรีตุลา แนะนำว่าต้องจัดของไหว้ให้ครบและเนื่องจากองค์ไฉ่เซิงเอี้ยเป็นเทพเจ้าที่จะประทานโชคลาภเงินทอง จึงควรเตรียมสิ่งของที่เกี่ยวกับเงินทองไว้ด้วยถือว่าเอาเคล็ดความเฮง และยังมีข้อห้ามในการไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยอีกเล้กน้อยก็คือ ห้ามผู้ที่เกิดปีมะเมียซึ่งเป็นปีชงในปี 2563 นี้ไหว้เป็นคนแรก ควรให้คนที่เกิดปีอื่นๆ เป็นคนแรกในการเริ่มก่อน หรือให้คนปีมะเมียใช้ฤกษ์ในการไหว้เวลา 03.00 - 05.00 น. ของวันที่ 25 มกราคมแทน
- อ่านข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง -
ไหว้เจ้า 'ตรุษจีน 2563' รู้จักเทพเจ้าจีนช่วยเสริมเฮงปีหนูทอง
คำอวยพร 'ตรุษจีน' จีนกลาง-จีนแต้จิ๋ว ออกเสียงยังไง?
'ตรุษจีน' แบบคูลๆ ทำอย่างไรในยุคที่สู้กับ 'ฝุ่นPM2.5'
ต้อนรับวันเที่ยว ‘ตรุษจีน’ ชี้เป้า 5 ที่เที่ยวบรรยากาศแดนมังกร