สิงคโปร์คุมเข้มต่างชาติ ระงับโครงการแลกเปลี่ยน นศ.

สิงคโปร์คุมเข้มต่างชาติ ระงับโครงการแลกเปลี่ยน นศ.

สิงคโปร์ หนึ่งในประเทศที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่รับมือโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพอันดับต้นๆ ของโลก ล่าสุดมีมาตรการห้ามต่างชาติจากเกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่านเข้าประเทศ รวมถึงระงับโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับรัฐบาลอิตาลีทั้งหมด

ผู้เชี่ยวชาญในองค์การอนามัยโลก (ดับบลิวเอชโอ) ประสานเสียงยกย่องสิงคโปร์ เป็นประเทศที่รับมือโรคโควิด-19 แพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และล่าสุดสิงคโปร์ได้ออกประกาศห้ามต่างชาติจากเกาหลีใต้-อิตาลี-อิหร่าน เข้าประเทศ โดยผู้ที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ ทางเหนืออิตาลีและอิหร่านใน 14 วันจะไม่ได้รับอนุญาตเข้าหรือผ่านสิงคโปร์ พร้อมออกมาตรการป้องกันไว้ก่อน ตรวจเชื้อนักเดินทางมีอาการทุกราย

คณะทำงานเฉพาะกิจของสิงคโปร์ ออกมาตรการใหม่ห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางจากประเทศเสี่ยงโรคโควิด-19 ระบาด ได้แก่ เกาหลีใต้, 8 เมืองทางตอนเหนืออิตาลีและอิหร่าน ในช่วง 14 วัน เข้าประเทศ เพื่อจำกัดความเสี่ยงนำเข้าเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

ส่วนชาวสิงคโปร์ ผู้พำนักถาวรและผู้ถือวีซ่าระยะยาวที่ไปยังประเทศเหล่านี้มา ให้เข้าประเทศได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้คำสั่ง Stay-Home Notice หมายความว่าจะต้องอยู่แต่ในเคหะสถานตลอดเวลา 14 วัน ห้ามออกข้างนอกเด็ดขาด

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ยังขอให้ประชาชน ชะลอการเดินทางไปยังประเทศเสี่ยงออกไปก่อน ประเทศเหล่านี้มีญี่ปุ่นอีกหนึ่งประเทศ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก ทั้งยังดำเนินมาตรการป้องกันไว้ก่อน ด้วยการตรวจเชื้อนักเดินทางที่มีอาการทุกคน เพื่อป้องกันเชื้อนำเข้า

158338153565

นับจากเวลา 23.59 น. วันที่ 4 มี.ค. ผู้เดินทางเข้าสิงคโปร์ที่มีไข้ หรือมีอาการทางเดินหายใจ อาจจะต้องเข้ารับการตรวจสอบที่ด่าน เพื่อหาเชื้อ

ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จากนั้นอาจให้เดินทางต่อไปได้ในสิงคโปร์ แต่จะแนะนำให้แยกตัวเพื่อเป็นมาตรการไว้ก่อน เจ้าหน้าที่จะติดต่อแจ้งผลตรวจที่จะทราบใน 3-6 ชม. หากผลตรวจเป็นบวก จะได้รับการนำตัวส่ง รพ. ส่วนคนที่ผลตรวจเป็นลบ ก็ควรลดกิจกรรมทางสังคมให้น้อยที่สุดและไปพบแพทย์หากมีอาการป่วยไม่ดีขึ้นใน 3 วัน

นักเดินทางระยะสั้น หากไม่ยอมเข้ารับการตรวจ จะไม่อนุญาตให้เข้าประเทศ ส่วนผู้พำนักถาวร และระยะยาว ที่ปฏิเสธการตรวจ อาจถูกเพิกถอนเอกสิทธิ์หรือลดระยะเวลาพำนักในประเทศ

สิงคโปร์ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นระยะ แต่เพิ่มในจำนวนที่น้อยลงในแต่ละแต่วัน กระนั้นไวรัสแพร่ลามทั่วโลกอย่างรวดเร็ว อาจมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากในหลายประเทศที่หลุดรอด

กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า สิงคโปร์จะเผชิญกับการติดเชื้อระลอกใหม่ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะสกัดไวรัสที่ชายแดน และไม่อาจโดดเดี่ยวและปิดประเทศจากโลกภายนอก จึงต้องเตรียมรับมือกับการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ

แต่สิงคโปร์ ไม่ได้สกัดพลเมืองจากกลุ่มประเทศเสี่ยงอย่างเดียวเท่านั้น มหาวิทยาลัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (เอ็นยูเอส) และมหาวิทยาลัยบริหารจัดการสิงคโปร์ (เอสเอ็มยู) ก็ตัดสินใจระงับโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับรัฐบาลอิตาลีทั้งหมดจนกว่าจะมีการประกาศแจ้งในโอกาสต่อไป เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ขณะเดียวกัน ทีมวิจัยทางการแพทย์ของมหาวิทยาลัย Duke-NUS Medical School ในสิงคโปร์ ก็มีความคืบหน้าในการพัฒนาวิธีการตรวจสอบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ด้วยการใช้วิธีการตรวจสอบทางวิทยาเซรุ่ม เพื่อยืนยันการติดเชื้อ และยังสามารถหาจุดเชื่อมโยงในหมู่ผู้ติดเชื้อได้ด้วย

วิธีตรวจสอบทางวิทยาเซรุ่มนั้น ทำให้ทีมวิจัยชุดนี้สามารถตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จำนวน 2 ราย โดยการตรวจสอบทางวิทยาเซรุ่มนั้น สามารถระบุสารภูมิต้านทาน (antibody) ในตัวอย่างเลือด ซึ่งโดยปกติแล้วระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายคนเราจะผลิตสารภูมิต้านทานออกมาเพื่อตอบสนองกับการติดเชื้อ ซึ่งผู้ติดเชื้อทั้ง 2 รายถูกระบุว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนในโบสถ์ท้องถิ่นในสิงคโปร์

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ความสำเร็จในการพัฒนาวิธีการตรวจสอบดังกล่าว เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ หลังจากสิงคโปร์ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่รายแรก

ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลสิงคโปร์มีขึ้น หลังจากบริษัทชั้นนำหลายแห่งของประเทศพากันใช้นโยบายระงับการปรับขึ้นเงินเดือนและลดเงินโบนัส ในช่วงเวลาที่สิงคโปร์กำลังพยายามที่จะรับมือกับผลกระทบของโรคโควิด-19 อย่างกรณีของเทมาเส็ก โฮลดิ้ง บริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่ประกาศระงับการปรับขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงาน และเรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงปรับลดเงินเดือน รวมทั้งโบนัสด้วยความสมัครใจ โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน เม.ย.นี้

แต่นอกจากสิงคโปร์จะมีมาตรการต่างๆ รับมือการระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว ยังส่งอุปกรณ์ทดสอบอาการและเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์แก่เมียนมาเพื่อนำไปใช้ตรวจับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

กระทรวงต่างประเทศของสิงคโปร์ (เอ็มเอฟเอ) ระบุวานนี้ (4 มี.ค.) ว่า ทางการสิงคโปร์ได้จัดส่งอุปกรณ์ทดสอบโรคจำนวน 3,000 ชุด และเครื่อง Polymerase Chain Reaction (พีซีอาร์) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยทางด้านอณูชีววิทยา (Molecular biology) จำนวน 2 เครื่อง เป็นการมอบความช่วยเหลือตามที่กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาของเมียนมาเรียกร้องมา

อย่างไรก็ตาม เมียนมา ไม่ได้มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ แต่การสั่งปิดโรงงานผลิตชั่วคราวและการปลดพนักงานเริ่มส่งผลกระทบต่อแรงงานที่ได้รับค่าแรงงานต่ำทั่วภูมิภาคเอเชีย ขณะที่การกักบริเวณผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ หรือผู้ติดเชื้อ รวมทั้งการคุมเข้มการเดินทางรูปแบบต่างๆ ของหลายประเทศกำลังสร้างความปั่นป่วนแก่ระบบห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงกับจีน

เมียนมา มีเขตแดนทางบกด้านตะวันออกเฉียงเหนือติดกับจีน ประเทศต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากเมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ย์ ในภาคกลางของจีนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ เมียนมายังไม่มีรายงานยืนยันการพบผู้ติดเชื้อ จะมีก็แต่ประชาชนจำนวนมากที่ถูกกักกันเพื่อเฝ้าดูอาการ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองย่างกุ้ง