สหรัฐเริ่มทดสอบวัคซีนต้าน ‘โควิด-19’ กับคนครั้งแรก
สหรัฐเริ่มทดสอบวัคซีนต้านโรคโควิด-19 กับคนเป็นครั้งแรกในวันจันทร์ (16 มี.ค.) เริ่มจากผู้ป่วย 45 คนแรก ทั้งชายและหญิง อายุระหว่าง 18-55 ปี
นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า การทดสอบวัคซีนต้านโรคโควิด-19 กับคนเป็นครั้งแรกได้เริ่มขึ้นในวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่นท้องถิ่น
“การหาวัคซีนที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญเร่งด่วนต่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน โดยการศึกษาในเฟสแรกนี้ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญไปสู่การบรรลุเป้าหมายดังกล่าว” นายแพทย์ฟอซี กล่าว
ทั้งนี้ สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐทำงานร่วมกับบริษัทโมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทในธุรกิจไบโอเทค เพื่อพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 โดยการทดลองมีขึ้นในรัฐวอชิงตัน ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรคนี้อย่างรุนแรง
การทดลองในเฟสแรกจะมีขึ้นกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นชาย และผู้ติดเชื้อที่เป็นหญิงที่อยู่ในวัย 18-55 ปี และไม่ได้ตั้งครรภ์ จำนวนรวม 45 ราย
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของรัฐบาลสหรัฐ มีขึ้นหลังจากสื่อของเยอรมนี รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า รัฐบาลสหรัฐเสนอเงินจำนวนมากให้กับบริษัททางการแพทย์ของเยอรมนีเพื่อขอเข้าถึงวัคซีนโควิด -19 เป็นการเฉพาะ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ เสนอเงินจำนวนมหาศาลให้กับบริษัทเคียววัค ซึ่งเป็นบริษัทยาชีวภาพในเมืองทือบิงเงน เพื่อที่จะขอให้สหรัฐเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ได้เพียงประเทศเดียว
แหล่งข่าวซึ่งไม่เปิดเผยชื่อระบุด้วยว่า นายทรัมป์กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะยึดเอาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรน่ามาใช้ในสหรัฐ โดยมีเงื่อนไขว่า ใช้สำหรับสหรัฐประเทศเดียว