กพท.เตรียมยกระดับเข้ม ผู้โดยสารทั่วโลกเข้าไทยต้องโชว์ใบรับรองปลอดโควิด

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อยู่ระหว่างเตรียมออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศเกี่ยวกับการให้บริการจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะประกาศได้ภายในวันที่ 20 มี.ค. หรืออย่างช้าในวันที่ 23 มี.ค.นี้

โดยจะกำหนดให้สายการบินตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางมาจากทุกประเทศทั่วโลก จะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ปลอดโรคโควิด -19 ก่อนการเดินทาง รวมทั้งผู้โดยสารต่างชาติจะต้องมีกรมธรรม์ประกันภัยที่แสดงการคุ้มครองการรักษาพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมถึงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1 แสนดอลลาร์ หากไม่สามารถแสดงได้จะถูกปฏิเสธการเข้าประเทศโดยสายการบินจะไม่ออกตั๋วโดยสารให้

“ขณะนี้ กพท. ได้ทำร่างประกาศเพิ่มเติมเสร็จแล้ว รอแค่การประกาศบังคับใช้ คาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ได้ภายในวันที่ 20 มี.ค.หรือ 23 มี.ค.ขณะนี้ อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ โดย กพท.จะต้องรอให้กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศเพิ่มเติมเขตโรคติดต่อก่อน  ซึ่งต่อทุกประเทศทั่วโลกที่จะเดินทางเข้าไทยจะต้องมีใบรังรอบแพทย์ทุกคน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นมาตรการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัย ซึ่งหากใครมีสุขภาพที่ดีก็สามารถเดินทางเข้าไทยได้ ตามปกติ”

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ตนยังได้หารือกับกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เพื่อให้เตรียมออกประกาศกำหนดให้ประชาชนที่จะเดินทางโดยทางราง คือ รถไฟฟ้า และรถไฟ จะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน รวมไปถึงการโดยสารโดยรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และการเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะของ บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) ซึ่ง ขสมก.และ บขส.จะต้องกลับไปออกประกาศข้อกำหนดต่อไปด้วย

“ปัจจุบันการโดยสารรถไฟฟ้า เรามีการทำการสแกนอุณหภูมิก่อนขึ้นรถไฟฟ้า หากพบว่าเกิน 37 .5 องศา จะถูกนำตัวไปรักษาพยาบาล แต่ต่อไปนี้ จะเพิ่มมาตรการ คือบังคับให้ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วย”

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวอีกว่า เพื่อป้อกันไม่ให้เกิดปัญหากรณีประชาชนไม่มีหน้ากากอนามัยสวมใส่ ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานไปยังผู้ผลิต หรือกระทรวงพาณิชย์ เพื่อนำหน้ากากอนามัยมาขายให้กับผู้โดยสารในราคาควบคุม อันละไม่เกิน 2.50 บาท โดยจะมีการตั้งจุดจำหน่ายหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนบริเวณก่อนเข้าสถานีรถไฟฟ้า

รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระบุว่า ขณะนี้ กพท.อยู่ระหว่างร่างประกาศเรื่องแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศเกี่ยวกับการให้บริการจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แก้ไขจากประกาศฉบับเดิมที่ระบุบังคับใช้กับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง และประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 อย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนเป็นประกาศเพื่อครอบคลุมกับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต้นทางทั่วโลก

โดยจะกำหนดให้สายการบินตรวจสอบในส่วนของผู้โดยสารต่างชาติ จะต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ออกให้โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ที่ยืนยันว่ามีการตรวจผู้โดยสารแล้วไม่พบเชื้อโควิด -19 นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยที่แสดงการคุ้มครองการรักษาพยาบาลในไทย ครอบคลุมโรคโควิด -19 เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1 แสนดอลลาร์

และในกรณีที่ผู้โดยสารเดินทางมายังประเทศไทยเป็นผู้มีสัญชาติไทย ให้สายการบินดำเนินการคัดกรอง ตรวจสอบใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง และตรวจสอบหนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศไทยที่สถานเอกอัครราชทูตไทย สถานกงสุลใหญ่ หรือกระทรวงการต่างประเทศออกให้

หากพบว่าผู้โดยสารมีประวัติการเดินทางไปยังกลุ่มประเทศเสี่ยง และผู้โดยสารไม่สามารถแสดงหลักฐานทั้งหมดตามข้อกำหนดได้ครบถ้วย หรือพบว่าผู้โดยสารซึ่งมีสัญชาติไทยไม่สามารถแสดงหลักฐานทั้งหมดครบถ้วน ให้สายการบินปฏิเสธการขึ้นเครื่องและงดออกบัตรโดยสาร