ระทึก! ผู้ป่วยโควิด-19 โดดระเบียง หนีกลับบ้าน
ระทึก ผู้ป่วย โควิด-19 โดดระเบียงรพ.กระบี่ หนีกลับบ้าน ยังดีเจ้าหน้าที่ตามไปเจอที่บขส.ขณะกำลังจะขึ้นรถกลับบ้าน นำกลับไปรักษาต่อ พร้อมแจ้งดำเนินคดีตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ
นพ.สุพจน์ ภูเก้าล้วน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี่ ได้แจ้งประสานไปยัง พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ให้ช่วยติดตามตัวผู้ป่วยชายรายหนึ่ง อายุประมาณ 20-25 ปี หลบหนีออกจากโรงพยาบาลกระบี่ โดยเป็นผู้ป่วยที่ถูกกักตัวไว้รักษา หลังตรวจพบผู้ป่วยชายรายดังกล่าวมีเชื้อไวรัสโควิด-19
ตำรวจพร้อมด้วยทีมแพทย์ และพยาบาล ของโรงพยาบาลกระบี่ จึงเร่งออกติดตามตัว ต่อมารับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ บขส.กระบี่ ว่าพบชายไทยคนหนึ่งเข้ามายังจุดตรวจคัดกรองของ บขส.แล้วเจ้าหน้าที่ตรวจพบร่างกายมีอุณหภูมิสูงผิดปกติ ทางตำรวจ พร้อมด้วย แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลกระบี่ จึงเร่งเดินทางไปตรวจสอบ พบเป็นผู้ป่วยที่หลบหนีออกจากโรงพยาบาล จึงรีบนำตัวกลับไปกักตัวเพื่อรักษา
เบื้องต้นทราบว่าชายคนดังกล่าว พยายามจะเดินทางกลับไปบ้านในพื้นที่ จ.ตรัง แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจคัดกรอง และได้ตัวก่อนจะขึ้นรถโดยสารกลับบ้าน
สำหรับผู้ป่วยชายรายนี้ ทางโรงพยาบาลกระบี่ รับตัวเข้ามารักษาอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยทราบว่าเดินทางมาจากเกาะพีพี ถูกนำตัวอย่างสารคัดหลั่งส่งตรวจหาเชื้อ พบว่ามีเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงกักตัวไว้รักษาในห้องความดันลบชั้น 1 อาคาร 45 ปี โรงพยาบาลกระบี่ จนกระทั่งช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พยาบาล กำลังจะเข้าไปตรวจวัดไข้ แต่ไม่พบผู้ป่วยในห้อง คาดว่าผู้ป่วยน่าจะหลบหนีออกทางระเบียงหลังห้อง กระโดดออกจากตัวอาคารไป
เบื้องต้นประสานให้ทางนิติกรของโรงพยาบาล ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ป่วยรายดังกล่าวแล้วด้วย ตามความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยากฝากถึงผู้ที่ป่วยด้วยไวรัสโควิด-19 ทุกคน ขอให้ทุกคนมีจิตสำนึกในการเก็บตัวรักษา เพราะผู้ติดเชื้อมีโอกาสที่จะรักษาให้หายได้ แต่ต้องให้ความร่วมมือกับทางทีมแพทย์ด้วย กรณีดังกล่าว จึงต้องดำเนินคดีให้เป็นตัวอย่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากสถานการณ์ ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ามาตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงพยาบาลกระบี่จำนวนมากขึ้นจากหลายกลุ่มอาชีพ ซึ่งเบื้องต้นทาง สสจ.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใน จ.กระบี่ อยู่ที่ 6 ราย และรอผลตรวจเชื้ออีก 16 ราย คาดว่าอาจพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกนับ 10 ราย แต่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริง