จัดการแล้ว! 'พาณิชย์' ประกาศห้ามส่งออกไข่ 7 วัน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีไข่ไก่ขึ้นราคา ว่า ปกติประเทศไทยผลิตไข่ไก่เฉลี่ยวันละประมาณ 40 ล้านฟองซึ่งส่วนใหญ่จะบริโภคในประเทศเป็นหลัก ซึ่งบางช่วงอาจจะล้นหรือขาดตลาด เช่น ปีที่ผ่านมาล้นตลาดจนรัฐบาลต้องช่วยส่งออกอุดหนุนฟองละ 40 สตางค์ แต่ในช่วงเวลาปัจจุบันมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรการที่เข้มข้นขึ้นของรัฐบาลทำให้ประชาชนเป็นกังวล ซึ่งจากการสำรวจความต้องการเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ซึ่งพบว่าในห้างสรรพสินค้ามีการจำหน่ายจาก 100 ส่วน ขาย 3 วันเป็น 1 วันหมด ทำให้ไข่ไก่ขาดตลาดในบางช่วงบางเวลา

อย่างไรก็ตามหากดูตัวเลขการผลิตรวมโดยเฉลี่ย จะพบว่าอยู่ในปริมาณเท่ากับปลายปีที่ผ่านมาประมาณ 40 ล้านฟองต่อวัน โดยมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ จะเข้าไปดูเรื่องการควบคุมราคาที่จะไม่ให้ขายเกินราคาเนื่องจากราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มราคา 2.80 บาท ราคาขายปลีกอยู่ที่ 3.30 ถึง 3.50 บาท แต่หากจำหน่ายในราคาที่สูงมากกว่าเฉลี่ย หรือราคาควร จะผิดฐานค้ากำไรเกินควรและจะมีการจับกุมดำเนินคดีโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้คดีหน้ากากอนามัยมีการพิพากษาจำคุกจริงรวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคในลักษณะค้ากำไรเกินควร โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งวันนี้มีการหารือ ขอให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ดำเนินการปราบปรามและจับกุมดำเนินคดีกับผู้ปกครองและขายสินค้าเกินราคาค้ากำไรเกินควรเร่งด่วนแม้ในพื้นที่กรุงเทพฯก็ตาม

ขณะนี้มีการรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกได้มีการจับกุมดำเนินคดีแล้วเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาในร้านจำหน่ายขายเกินราคาข้างโรงเรียนพุทธชินราชอำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลกไข่ไก่เบอร์ 2 แผงละ 140 บาทเฉลี่ย 4.70 บาท ซึ่งราคาที่ควรจะเป็นไม่ควรจะเกิน 3 . 70 บาท ซึ่งได้มีการดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พร้อมกับขอความร่วมมือผู้ขายเนื่องจากขณะนี้เองเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ประชาชนมีความทุกข์มากพออยู่แล้วการค้ากำไรเกินควรเท่ากับการซ้ำเติมสถานการณ์ ซึ่งไม่สมควรที่จะให้เกิดขึ้นและหากประชาชนมีเบาะแสงให้แจ้งมาที่ 1569 และสายตรวจของกระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงสายตรวจของหน่วยงานป้องกันปราบปรามการกระตุ้นสินค้าและค้ากำไรเกินควรระดับจังหวัด

โดย เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์เร่งด่วนการขาดตลาดของไข่ไก่ จะมีการออกประกาศห้ามการส่งออกไข่ไก่ออกนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปและจะทดลองมาตรการนี้เป็นเวลา 7 วันก่อนและจะประเมินสถานการณ์ว่าดีขึ้นหรือไม่ หากพบว่าไม่ดีขึ้นจะมีการพิจารณาอีกครั้งโดยอาจจะมีการขยายเวลาประกาศดังกล่าว

ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีการประสานงานกันโดยกรมปศุสัตว์จะไม่ออกใบอนุญาตส่งของให้เพื่อให้สอดรับประสานเป็นแนวเดียวกันกับกระทรวงพาณิชย์ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ในส่วนของอุปกรณ์ทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดทางในการเร่งการผลิตร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและเรื่องการนำเข้า ทั้ง หน้ากาก n95 / ชุด
PPE /Lab Test /และเวชภัณฑ์อื่น ยกเว้นเรื่องหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ขณะนี้สามารถผลิตได้ประมาณ 2.4 ล้านชิ้นต่อวัน โดยให้กระทรวงสาธารณสุขกระจายให้สถานพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งทุกอย่างอยู่ในศักยภาพของการรับของแต่ละโรงพยาบาลเช่นกัน โดยมีการแจ้งให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการในการกระจาย ส่วนในส่วนที่กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้กระจายนั้น จะปรับเปลี่ยนเป็นกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้กระจายให้ประชาชน โดยตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บริหารจัดการทั้งหมด เนื่องจากในพื้นที่จะรู้ดีว่ากลุ่มเสี่ยงอยู่พื้นที่ใดบ้าง