ไทยพบผู้ป่วยโควิดใหม่ 103 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย

ไทยพบผู้ป่วยโควิดใหม่ 103 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย

สธ.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 103 ราย ตายเพิ่ม 4 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันจำนวน 1,978 ราย ผู้ตายส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว โฆษก ศบค. ระบุ กลุ่มผู้ป่วยใหม่ส่วนใหญ่อายุ 20-29 ปี เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการเดินทาง เคลื่อนย้าย สังสรรค์

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 103 ราย รวมยอดสะสม 1,978 ราย เป็นเพศชาย และ เพศหญิง เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย รวม 19 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 76 ราย รวม 581 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดมีสัญชาติไทย 1,684 ราย สัญชาติอื่น ๆ 294 ราย จำนวนผู้ป่วยจำแนกตามพื้นที่กทม. 48% ต่างจังหวัด 42% รอยืนยัน 10% แบ่งเป็น กรุงเทพฯ-นนทบุรี 1,049 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 94 ราย ภาคเหนือ 74 ราย ภาคกลาง 291 ราย ภาคใต้ 277 ราย อายุเฉลี่ย 39 ปี อายุสูงสุด 86 ปี อายุน้อยสุด 6 เดือน

158588937254

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้เสียชีวิต 4 ราย ได้แก่ รายที่ 1 ชายไทย 59 ปี อาชีพ พนักงานการรถไฟ วันที่ 21 มีนาคม ไปพบแพทย์โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และได้กลับไปทำงานโดยปกติ แสดงว่าในช่วงแรกอาการน้อยมาก แต่ปรากฏว่าในวันที่ 31 มีนาคม มีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ได้เข้ารักษาในโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 เมษายน

รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 72 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันมาก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นลูกที่ไปดูมวยที่สนามมวย ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ มีโรคประจำตัว คือ โรคไต เริ่มป่วยเมื่อวัน 16 มีนาคม และเสียชีวิต 1 เมษายน

รายที่ 3 ชายไทย อายุ 84 ปี ทำงานที่สนามมวยราชดำเนิน มีโรคประจำตัว คือ โรคไต ความดันสูง โรคเก๊า ฯลฯ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบลในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม เสียชีวิต 2 เมษายน สำหรับ

รายที่ 4 เป็นชายไทย อายุ 84 ปี มีประวัติไปสนามมวย และเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม เข้ารักษาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ด้วยการไข้ 39.3 มีน้ำมูก ไอ ในโรงพยาบาลรัฐในกทม. และเสียชีวิต ในวันที่ 2 เมษายน

158588942390

158588943731

158588968417

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า จะเห็นว่า 3 ใน 4 ราย เป็นผู้สูงอายุทั้งสิ้น รวมถึงมีโรคประจำตัว ขอเน้นย้ำว่า ตอนนี้โดยเฉพาะในเทศกาลสงกราต์ หากท่านเป็นลูกกตัญญู ไม่ควรเข้าใกล้พ่อแม่ คนที่สูงอายุ เพราะเขามีความเสี่ยงสูง ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นตลอดคือ อายุ 20-29 ปี ต้องเพ่งไปที่กลุ่มนี้เพราะมีการเดินทาง เคลื่อนย้าย พบปะสังสรรค์ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่เกิดแพร่กระจาย ของเชื้อ ผู้ปกครอง ครอบครัวควรจะต้องช่วยกันแนะนำด้วย

สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก 202 ประเทศ มีผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 1,014,296 ราย ผู้ป่วยหนัก 37,698 ราย รักษาหาย 212,018 ราย เสียชีวิต 52,298 ราย ผู้ป่วยมากที่สุดอันดับ 1 คือ สหรัฐอเมริกา 244,230 ราย อันดับ 2 อิตาลี 115,242 ราย และอันดับ 3 สเปน 112,065 ราย สำหรับประเทศไทย อยู่อันดับที่ 37

158588970431

158588971665

158588972864