ตรัง เรียกประชุมค้าปลีก-ค้าส่ง ห้างสรรพสินค้าเตรียมยกระดับ
รองผู้ว่าฯ ตรัง เรียกประชุมตัวแทนห้างค้าปลีก ค้าส่ง และห้างสรรพสินค้าในจังหวัดตรัง เพื่อเตรียมความพร้อมการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคให้ประชาชนหากมีการยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 63 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดตรัง เรียกประชุมด่วน ห้างโมเดิร์นเทรด และห้างค้าปลีก ค้าส่งท้องถิ่นรายสำคัญในจังหวัดตรัง รวมประมาณ6แห่ง เพื่อเตรียมความพร้อมการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคให้ประชาชนจังหวัดตรัง กรณีการยกระดับการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรน่า -19ในการบริหารจัดการสินค้าให้เพียงพอ และสามารถกระจายสินค้าได้ทั่วถึงตามตำบลหรือหมู่บ้าน หากประชาชนถูกจำกัดห้ามออกนอกเคหสถาน เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยทางจังหวัดและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้ขอให้ผู้ประกอบการร้านค้าปลีก ค้าส่ง และห้างสรรพสินค้าร่วมกันพิจารณาถึงปริมาณความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพของจังหวัดตรัง ประเภทสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพที่มีผลกระทบต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 เช่น 1.ปริมาณการจำหน่ายสินค้าต่อรอบ (เดือน) 2.ปริมาณสินค้าคงเหลือต่อรอบ (เดือน) 3.คาดการณ์ปริมาณความต้องการสินค้าในช่วงยกระดับควบคุมสถานการณ์โดยให้ทุกแห่งกรอกบันทึกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม โดยจัดสินค้าออกเป็นหมวดหมู่ ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ของใช้ประจำวัน น้ำดื่ม เครื่องปรุงรส ผลิตภัณฑ์นม อาหารสำเร็จรูป และเวชภัณฑ์ยา 4.ห้าง/บริษัทมีการขนส่งกระจายสินค้าในช่วงเหตุการณ์ปกติอย่างไรรวมทั้งการขนส่งกระจายสินค้า หากจังหวัดตรังยกระดับการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVD-19)และ 5.ปัญหาอุปสรรคในการสั่งซื้อสินค้า การขนส่งสินค้าเข้ามาในจังหวัด หรือการขนส่งกระจายสินค้ไปยังร้านค้าในหมู่บ้าน/ตำบล ซึ่งจะต้องกรอกบันทึกข้อมูลลงในแบบฟอร์มเช่นกัน
ทั้งนี้ในส่วนของสินค้าประเภทข้าวนั้น พบว่าความต้องการใช้ข้าวในจังหวัดตรังจำนวน 60,000 กว่าตันต่อปี หรือประมาณ 5,000 ตันต่อเดือน แต่จังหวัดตรังมีสต๊อกเพียงแค่ประมาณ 1,000 ตัน สามารถรองรับได้เพียงแค่1สัปดาห์เท่านั้น โดยทั้งหมดทางจังหวัดตรังจะสรุปข้อมูล รวมทั้งปัญหาอุปสรรคส่งไปที่กระทรวงพาณิชย์ โดยสินค้าบางประเภทจะต้องประสานให้บริษัทผู้ผลิตทำการผลิตทาจากปริมาณเดิม และทางจังหวัดรับปากจะอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านด่านตลอดเส้นทางจนถึงจังหวัด เพื่อไม่เกิดปัญหาขณะขนส่งสินค้าและสินค้าถึงจังหวัดตามห้วงเวลา
อย่างไรก็พบว่า ผู้ประกอบการได้รายงานว่า ขณะนี้พบว่าหลังมีการประกาศให้ทุกจังหวัดเตรียมพร้อมยกระดับการแก้ไขควบคุมโรค ซึ่งประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลอาจจะมีการประกาศเคอร์ฟิว 24 ชม.จึงออกมาซื้ออาหารไปกักตุนกันบ้างแล้ว ทั้งเอาไปรับประทานในครัวเรือน รวมทั้งเอาไปไว้เตรียมจำหน่ายที่ร้านค้าในหมู่บ้าน โดยเฉพาะอาหารแห้งประเภท บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบางยี่ห้อเริ่มขาดตลาด สั่งไปตั้งแต่ต้นเดือนยังไม่มา แต่หลายยี่ห้อยังมีจำหน่ายอยู่ ส่วนสินค้าอื่นๆทั่วไปร้านค้าส่ง ค้าปลีกต่างๆ ยังมีสินค้าเติมเต็มตลอดเวลา