ประกาศ 'ล็อคดาวน์' อ.เบตง 12-30 เม.ย.เพื่อรักษาพื้นที่ไข่แดง
ประกาศ "ล็อคดาวน์" อ.เบตง 12-30 เม.ย. เพื่อรักษาพื้นที่ไข่แดง
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติตเชื้อไวรัสCOVID-19โดยที่ประชุมได้มีข้อเสนอที่หลากหลายกับมาตรการปิดเมืองเบตง เช่น ห้ามคนนอกเข้าพื้นที่อำเภอเบตง ผู้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ฉุกเฉิน ที่จะต้องออกจากเบตง และต้องกลับเข้ามาที่เบตงอีกครั้ง จะต้องถูกกักตัวไว้สังเกตอาการที่ศูนย์กักกันโรค14วัน รถขนส่งสินค้า อาหาร ของใช้ เครื่องอุปโภคบริโภค และผลผลิตทางการเกษตร สามารถเข้า-ออก ได้ตามปกติ
เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคกำหนดเท่านั้น พี่น้องประชาชนชาวเบตง ใช้วิถีชีวิตภายในอำเภอเบตง ได้ตามปกติ ออกจากบ้านไปธุระได้ตามปกติออกไปทำสวน ไปตัดยาง ไปขายของ ได้ตามปกติ ตลาด ร้านค้า เปิดขายของได้ตามปกติ ยกเว้นช่วงเวลาเคอร์ฟิว22.00 -04.00น.
นอกจากนี้ มาตรการปิดเมืองเบตงดังกล่าว มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย พร้อมได้ศึกษาผลกระทบ รอบด้าน ทั้งผลเสีย และผลดี โดยในที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยให้ดำเนินมาตรการปิดเมืองเบตง และเตรียมนำข้อสรุปในการประชุมครั้งนี้ เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดยะลา
เพื่อนำมาตรการปิดเมืองเบตง ไปร่วมพิจารณากับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลาและคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์COVID-19จังหวัดยะลา ต่อไป ซึ่งต้องรอคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ว่าเห็นชอบตามที่เสนอมาตรการทั้งหมดหรือไม่ และจะตัดเรื่องใด หรือเพิ่มประเด็นใดซึ่ง จะต้องรอกำหนดวัน เวลาอย่างเป็นทางการ ต่อไป
ด้านนายอัมลี สะแลแม พ่อค้าอาหารทะเล บอกว่า หลังทราบข่าวว่าเบตงจะปิดเมืองก็เห็นดีด้วยกับชาวเมืองเบตงเพราะเบตงยังไม่มีผู้ติดเชื้อ ส่วนตนเองต้องปรับเวลาจากเดิมออกจากปัตตานีตอนเวลา 03.00-04.00 น.ก็ต้องปรับเวลาขนส่งอาหารทะเลใหม่โดยออกจากปัตตานีเวลา06.00 น.แทนใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ ซึ่งก็ไม่กระทบอะไรในการขนส่ง
ส่วนทางด้านน.ส.ข้าวฟาง สระแก้ว แม่ค้าในตลาดเทศบาลเมืองเบตง บอกว่า เห็นด้วยกับการปิดเมืองเพราะเบตงยังคงเป็น 0 ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ หากไม่ปิดเมืองเบตงในช่วงนี้อีกไม่นานคงมีการติดเชื้อแน่ ส่วนผลกระทบการค้าขายหรือไม่ นั้นคงไม่กระทบเพราะต้องปรับตัว เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์