จอห์นสันฯ ระดมโนว์ฮาวผลิต 'วัคซีน' หยุดโควิด

ขณะที่องค์การอนามัยโลก (ดับบลิวเอชโอ) เปิดเผยเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ขณะนี้มีวัคซีนต้านโควิด-19 ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาทั่วโลกแล้วถึง 70 รายการ ในจำนวนนี้มีการทดลองในมนุษย์แล้ว 3 รายการ เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน 2 ราย และสัญชาติจีน 1 ราย

ชูโนว์ฮาวผลิตวัคซีนชั้นนำ

นายแพทย์พอล สตอฟเฟิลส์ รองประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์จากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ตอบข้อซักถามถึงโครงการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ตั้งแต่การเริ่มพัฒนาโครงการครั้งแรกในเดือน ม.ค.2563 ขั้นตอนการทดลองในมนุษย์และความท้าทายในการพัฒนาวัคซีนให้สำเร็จเร็วที่สุดในระยะเวลาที่เร่งรัด เมื่อเทียบกับการพัฒนาวัคซีนทั่วไปที่เคยมีมา

ข้อมูลจากเว็บไซต์องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่สังเกตได้ ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิธีการพัฒนาวัคซีน แตกต่างจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จึงต้องคอยตรวจสอบไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ติดต่อกันระหว่างมนุษย์อย่าง ต่อเนื่องและปรับปรุงองค์ประกอบของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีละ 2 ครั้ง

เมื่อเวลาที่เร่งรัดเป็นเงื่อนไขหลักในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 บริษัทจึงต่อยอดจากเทคโนโลยี AdVac และ PER.C6 ที่ใช้ผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสอีโบล่าและสร้างวัคซีนที่จะถูกนำไปคัดเลือกเพื่อต้านเชื้อซิกา อาร์เอสวี และ เอชไอวี ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาทางคลินิกเฟสสองหรือเฟสสาม ทั้งนี้ ในส่วนของวัคซีนต้านโควิด-19 บริษัทตั้งเป้าที่จะทำการศึกษาทางคลินิกเฟสหนึ่งภายใน ก.ย.ที่จะถึงนี้

คาดว่าข้อมูลทางคลินิกด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพจะออกมาภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งอาจจะทำให้สามารถผลิตวัคซีน เพื่อการใช้ฉุกเฉินได้ในช่วงต้นปีหน้า ขณะนี้ทางทีมวิจัยกำลังอยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียดของการทดลองเหล่านี้ เช่น จำนวนอาสาสมัคร ช่วงวัย ระยะเวลา พื้นที่การทดลอง เป็นต้น

สำหรับเทคโนโลยีทั้สองดังกล่าวผ่านการรับรองของแจนแซ่น มีความสามารถในการพัฒนาตัวเลือกของวัคซีนใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังยกระดับการผลิตวัคซีนที่ได้รับการคัดเลือกไปพร้อมกัน โดย PER.C6 จะทำให้ได้วัคซีนและโมโนโคลนอลแอนติบอดีผลผลิตสูง เหมาะสำหรับการผลิตวัคซีนปริมาณมากๆ ในเวลาที่รวดเร็วได้ มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการผลิตวัคซีนที่ต้องการการผลิตไวรัสที่ยากต่อการเติบโตและสามารถเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้วัคซีนโควิด-19 ราคาไม่แพงสำหรับคนทั้งโลก

ส่วน AdVac อยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาและการผลิตวัคซีนกลุ่ม adenovirus vector (พาหะนำยีน) สามารถใช้ร่วมกับเทคโนโลยี PER.C6 เพื่อพัฒนาวัคซีนที่กระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคติดต่อที่คุกคามชีวิตได้

“ความแตกต่างจากวิธีการผลิตที่พัฒนาจากการผสมผสานเทคโนโลยี AdVac และ PER.C6 เอกสิทธิ์เฉพาะของแจนแซ่น (janssen) ในเครือเจแอนด์เจ ทำให้ผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพได้ไวในปริมาณมาก เหมาะอย่างยิ่งต่อการต่อสู้กับการระบาดของโรคติดเชื้อที่มีผลคุกคามต่อชีวิต ที่ต้องเร่งหาทางป้องกันอย่างรวดเร็วอย่างโควิด-19 นอกจากนี้ เรายังผสานความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ ระบบปฏิบัติการที่มีความพร้อมและความแข็งแกร่งทางด้านการเงินในการนำทรัพยากรต่างๆ ของเรา เพื่อร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ ที่จะเร่งต่อสู้กับโรคระบาดนี้”

1 พันล้านโดสปกป้องสังคม

อย่างไรก็ตาม เมื่อวัคซีนได้รับการรับรอง บริษัทจะร่วมมือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นี้จะสามารถเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสมโดยไม่แสวงหากำไร สำหรับการใช้เพื่อหยุดโรคระบาดในกรณีฉุกเฉินนี้ บริษัทมีแผนที่จะจัดส่งวัคซีนจำนวนกว่า 1 พันล้านโดสไปทุกประเทศที่มีความจำเป็นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ประเทศในเอเชีย รวมถึงประเทศเกิดใหม่อย่างแน่นอน พร้อมทั้งจะขยายเพิ่มกำลังการผลิตด้วยการจัดตั้งหน่วยผลิตใหม่ขึ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และ/หรือเอเชีย และตั้งเป้าที่จะผลิต 600-900 ล้านโดสสำหรับการใช้ฉุกเฉินภายในต้นปีหน้า

ทั้งนี้ สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในขณะนี้ คือ การพัฒนาวัคซีนที่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 หากวัคซีนตัวนี้ใช้ได้ผลก็จะถูกจัดส่งให้กับผู้ที่จำเป็นต้องใช้ได้ทันที นี่คือสิ่งที่ควรทำมากที่สุด เพื่อปกป้องสังคมและครอบครัวของเราจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสครั้งนี้