'หมอยง' ชี้ คุมโควิด-19 ต้องมีจุดสมดุล แนะ เปิดประเทศ-เมือง ขยายกิจกรรมต่างๆ ต้องค่อยเป็นค่อยไป
"ศ.นพ.ยง " คุมโควิด-19 ต้องมีจุดสมดุล แนะเปิดประเทศ-เมือง ขยายกิจกรรมต่างๆ ต้องค่อยเป็นค่อยไป เปิด กิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำมากๆ ก่อน กำหนดระยะห่างของสังคม การดูแลเรื่องสุขอนามัย การเข้าค้นหาผู้ป่วยให้เร็วที่
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 63 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว นพ.ยง ภู่วรวรรณ โดยเนื้อหาระบุว่า...
การควบคุมโรค โควิด 19 ให้เหลือน้อยที่สุดหรือหมดไปจากประเทศไทยได้ยิ่งดี แต่ในขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจ สังคม จะต้องอยู่ในจุดสมดุลย์ ถ้าต้องการให้โรคหมดไป ภาวะเศรษฐกิจและสังคมก็จะอยู่ในภาวะลำบากมาก ถ้ากลับไปอยู่สภาพเดิมของภาวะเศรษฐกิจและสังคม เราก็จะควบคุมการระบาดของโรคไม่ได้การเปิดประเทศ เปิดเมือง ขยายกิจกรรมต่างๆ จะต้องค่อยเป็นค่อยไป พร้อมทั้งนี้กฎเกณฑ์ในการให้โควิด 19 พบน้อยที่สุด กิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำมากๆ จะต้องยอมให้เปิดก่อน แต่ต้องคำนึงถึงกฎเกณฑ์ กำหนดระยะห่างของสังคม การดูแลเรื่องสุขอนามัย การเข้าค้นหาผู้ป่วยให้เร็วที่สุด การควบคุมโรค ไม่ให้แพร่ขยายต่อได้ ทุกคนต้องช่วยกันเฝ้ามองและเคารพในกฎเกณฑ์ กลุ่มเสี่ยงยังคงต้องอยู่บ้าน ผู้ออกนอกบ้านจะต้องคำนึงถึงคนในบ้านไม่นำพาโรคเข้ามาโดยเฉพาะให้กับผู้สูงอายุ
การประกอบอาชีพหลายอย่างอาจจะต้องเปลี่ยนไปบ้าง ยกตัวอย่างเช่น การตัดผม เสริมสวย จะต้องเคร่งครัดใส่หน้ากากอนามัยทั้งสองฝ่ายและพูดคุยกันให้น้อยที่สุด กำหนดระยะห่างภายในร้าน หรือมีการนัดคิว นัดเวลา ไม่ควรรอในร้านหลายคน การเปิดห้างจะทำอย่างไรให้คนไปซื้อของที่จำเป็น และอยู่ภายในเวลาน้อยที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีคนจำนวนมาก ลดการสัมผัสระหว่างคน ร้านอาหาร จะต้องจำกัดคนที่รับประทานในร้าน กำหนดระยะห่าง ให้เน้นการซื้อกลับบ้าน ทุกคนควรอยู่บ้าน การทำงานที่บ้าน ยังคงจะต้องอยู่ไประยะหนึ่ง สถานบันเทิง การแข่งกีฬา ที่อนุญาตให้คนเข้าชมควรจะต้องงด เพราะถือเป็นความเสี่ยงสูง
ทุกคนจะต้องช่วยกัน คนที่เสียโอกาส เสียอาชีพ ไม่มีงานทำ จะต้องได้รับการช่วยเหลือ จากรัฐบาลและ ผู้ที่มีความพร้อมที่จะช่วยได้ เราต้องต่อสู้อีกยาวนาน บนความสมดุลของทุกฝ่ายแบบพอเพียงโควิด 19 ทำให้ต้องมีการจัดระเบียบของสังคมใหม่ เพื่อความอยู่รอดของทุกฝ่ายเราต้องร่วมกันอีกยาวนานจนกว่าจะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค