‘นักวิเคราะห์’ฟันธงศก.ไทยรับอานิสงส์‘น้ำมันโลก’ทรุด

‘นักวิเคราะห์’ฟันธงศก.ไทยรับอานิสงส์‘น้ำมันโลก’ทรุด

“นักวิเคราะห์” ประเมินราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วงแรง จากสัญญาส่งมอบเดือนพ.ค.ครบอายุ ขณะที่คลังน้ำมันเต็ม ไร้คนซื้อ ส่งผลราคาร่วงจนติดลบ สะเทือนถึงค่าเงินประเทศที่พึ่งพาการส่งออกน้ำมัน ส่วนไทยเชื่อได้อานิสงส์จากต้นทุนน้ำเข้าน้ำมันที่ลดลง

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยตลาดการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า สาเหตุที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) เมื่อคืนวันที่ 20 เม.ย. ซึ่งส่งมอบเดือนพ.ค. ที่ซื้อขายกันในตลาดไนเม็กซ์ปรับลดลงจน “ติดลบ” ครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ 37.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือลดลงมาราว 55.90 ดอลลาร์ เนื่องจากสัญญาน้ำมันตัวนี้จะหมดอายุ คือ ต้องส่งมอบกันในวันนี้(21เม.ย.) ขณะที่สถานที่ใช้ในการเก็บน้ำมันเต็มหมดแล้ว จึงไม่มีผู้รับซื้อ ทำให้ผู้ขายต้องลดราคาลงเพื่อหวังว่าจะมีคนรับซื้อน้ำมันในสัญญารอบนี้ไปส่งผลให้ราคาปรับลดลงแรง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการซื้อขายน้ำมันดิบตลาด WTI เริ่มซื้อขายกันบนสัญญาใหม่ซึ่งจะส่งมอบกันในเดือนมิ.ย. หรืออีก 1 เดือนข้างหน้า โดยราคาไม่ได้ติดลบ แต่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งเป็นผลจากดีมานด์หรือปริมาณการบริโภคลดลงจากการล็อกดาวน์เมืองต่างๆ ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันไม่ได้ลดลงมากนัก

นายจิติพล กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินในสกุลที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกน้ำมัน เช่น ดอลลาร์แคนาดา ปรับลดลง 0.88% ขณะที่ รูเบิลรัสเซีย ลดลง 2.06% และ เรอัลบราซิล ลดลง 1.54% 

อย่างไรก็ดี ในมุมของเศรษฐกิจไทย การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันอย่างรวดเร็วนี้ น่าจะส่งผลบวกต่อจีดีพีในระยะสั้นเนื่องลดการนำเข้า และทำให้เกิดการเกินดุลบัญชีการค้า แต่ในระยะยาวก็ประมาทไม่ได้ เนื่องจากถ้าไม่สามารถกลับมาเปิดเมืองได้ ก็จะไม่ได้รับอานิสงส์ในจุดนี้ สวนทางกับการลงทุนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่จะชะลอตัวลงในอนาคต