'อาหารไทย-ตามสั่ง' ขึ้นแท่นเปิดขาย 'เดลิเวอรี่' สูงสุด!
"Wongnai" เผยครบรอบหนึ่งเดือน "ปิดร้านอาหาร" เปิดขาย "เดลิเวอรี่" สูงสุดกว่า 7,400 ร้าน ขณะที่ร้านอาหารแบบ "Delivery-only" เปิดใหม่โตเกือบ 400%
นับตั้งแต่มีการประกาศใช้มาตรการ "ปิดร้านอาหาร" งดการนั่งรับประทานที่ร้าน โดยให้ร้านอาหารเปิดขายเฉพาะนำกลับบ้านเท่านั้นเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ร้านอาหารมากมายเปิดขายเดลิเวอรี่ออนไลน์สูงมาก โดย Wongnai ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจตลอดหนึ่งเดือนเต็มหลังจากประกาศปิดร้านอาหารมาดังนี้
5 อันดับร้านอาหารที่เปิดขายเดลิเวอรี่ผ่าน Wongnai Merchant App (WMA) สูงที่สุด (22 พ.ค. - 18 เม.ย.)
อันดับ 1 ร้านอาหารไทย (รวมอาหารตามสั่งและอาหารจานเดียว) 7,482 ร้าน
อันดับ 2 ร้านก๋วยเตี๋ยว 1,835 ร้าน
อันดับ 3 ร้านกาแฟ 1,810 ร้าน
อันดับ 4 ร้านของหวาน 1,486 ร้าน
อันดับ 5 ร้านอาหารอีสาน 1,287 ร้าน
ร้านอาหารแบบ Delivery-only เปิดใหม่ทะลุ 1,000 ร้าน (22 พ.ค. - 18 เม.ย.) โตเกือบ 400% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
3 อันดับพื้นที่ที่มียอดออเดอร์เดลิเวอรีเติบโตสูงที่สุด (ม.ค. - มี.ค.)
อันดับ 1 หนองจอก ยอดออเดอร์เดือนมีนาคม 4,439 ครั้ง โต 115% เมื่อเทียบกับยอดออเดอร์ช่วงเดือนมกราคม
อันดับ 2 มีนบุรี ยอดออเดอร์เดือนมีนาคม 20,953 ครั้ง โต 99% เมื่อเทียบกับยอดออเดอร์เดือนมกราคม
อันดับ 3 ประเวศ ยอดออเดอร์เดือนมีนาคม 64,196 ครั้ง โต 92% เมื่อเทียบกับยอดออเดอร์เดือนมกราคม
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของจำนวนร้านอาหารที่เปิดขายเดลิเวอรี่ออนไลน์ผ่าน Wongnai Merchant App (WMA) ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นร้านที่มีประเภทอาหารที่ง่ายต่อการขนส่งเดลิเวอรี่แล้วนั้น ยังมีร้านอาหารที่ขาย "ประสบการณ์" เป็นหลัก อย่าง ร้านไฟน์ไดนิ่ง หรือร้านปิ้งย่างชาบู ได้ปรับตัวออกเมนูอาหารจานเดียวที่เหมาะสมกับการเดลิเวอรี่อีกด้วย แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันในช่วงนี้จะทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้น โดย Wongnai Merchant App (WMA) ได้นำเสนอเครื่องมือเพื่อเป็นตัวช่วยให้ร้านอาหารได้นำไปปรับใช้ในการโปรโมทร้านและดึงดูดลูกค้าทั้งบนแพลตฟอร์มของ Wongnai และ LINE MAN ไม่ว่าจะเป็น