ไม่ง่าย! ‘คิมโยจอง’ น้องสาว ‘คิมจองอึน’ หากขึ้นปกครอง ‘เกาหลีเหนือ’
ในขณะที่ชะตากรรมของ “คิม จอง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือยังเป็นปริศนา หลายฝ่ายกำลังจับตาไปที่ “ว่าที่ผู้นำคนต่อไป” โดยตัวเต็งย่อมหนีไม่พ้น “คิม โย จอง” น้องสาวแท้ๆ ของคิม แต่ด้วยค่านิยมผู้ชายเป็นใหญ่ ทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะก้าวขึ้นนำเกาหลีเหนือ
ในบรรดาสมาชิกตระกูล “คิม” ซึ่งน่าจะได้สืบทอดอำนาจต่อจาก คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดคนปัจจุบันของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนว่า คิม โย จอง น้องสาวของเขาจะเป็นตัวเลือกที่ชัดเจนที่สุดในฐานะว่าที่ผู้นำคนต่อไป หลังจากเครือข่ายตระกูลคิมปกครองเกาหลีเหนือมาแล้ว 3 รุ่นนับตั้งแต่ยุคก่อตั้งประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ด้วยอายุเพียง 32 ปี คิม โย จอง ปรากฏตัวอยู่ข้างกายพี่ชายในงานสำคัญๆ มาโดยตลอด ทั้งการประชุมสุดยอด (ซัมมิต) กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน อีกทั้งเธอเคยนั่งพูดคุยกับไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะเป็นตัวแทนเกาหลีเหนือในการแข่งขันโอลิมปิก ฤดูหนาว เมื่อปี 2561
นอกจากนี้ คิม โย จอง ยังเป็นสมาชิกตระกูลคิมคนแรกที่ได้ไปเยือนกรุงโซลของเกาหลีใต้ ซึ่งในครั้งนั้นเธอทำหน้าที่ส่งสารส่วนตัวจากพี่ชายเชิญประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ร่วมซัมมิตระหว่างผู้นำสองเกาหลีด้วย
- ท้าทายสังคมชายเป็นใหญ่
ถึงแม้จะเป็นตัวเต็งทายาทการเมืองอันดับ 1 ของเกาหลีเหนือ แต่ที่น่าสนใจคือ โย จองเป็นผู้หญิงในสังคมที่ถูกควบคุมผูกขาดโดยผู้ชาย และในขณะที่บรรดานักสังเกตการณ์เกาหลีเหนือหลายคนบอกว่า “สายเลือดสำคัญกว่าเพศ” แต่ก็ยังมีกลุ่มที่กังขาในตัวน้องสาวคิม จอง อึน
“บทบาทของโย จอง ในฐานะผู้นำประเทศน่าจะมีอย่างจำกัด เนื่องจากระบบสังคมที่เอื้ออำนวยให้ผู้ชายเป็นใหญ่” ยู โฮ-ยอล ซึ่งสอนวิชาเกาหลีเหนือศึกษาในมหาวิทยาลัยเกาหลี และอดีตที่ปรีกษากระทรวงรวมชาติและกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ กล่าว "ไม่เพียงนิยมผู้นำเพศชายเท่านั้น แต่อาจจะมีกระแสต้านผู้นำเพศหญิงจากประชาชนทั่วไปด้วย"
คำถามที่ว่า คิม โย จองจะได้เป็นผู้นำหญิงคนแรกของเกาหลีเหนือหรือไม่นั้น กลายเป็นที่สนใจจากทั่วทุกสารทิศทันที ในช่วงที่เรื่องปัญหาสุขภาพของพี่ชายยังเป็นปริศนา นับถึงเวลานี้ก็ล่วงเข้า 2 สัปดาห์แล้วที่ คิม จอง อึนไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนและในรายงานของสื่อกระบอกเสียง
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
เปิดเครือข่ายผู้นำ 'เกาหลีเหนือ' หลังยุค 'คิมจองอึน'
เปิดไทม์ไลน์ 'คิม จองอึน' ล่องหนปริศนา
เมื่อครั้ง คิม จอง อึนเข้าสู่อำนาจหลังการเสียชีวิตของ คิม จอง อิล ผู้เป็นบิดาเมื่อปี 2554 ก็เกิดคำถามสำคัญว่า ผู้นำในวัย 20 ปีเศษจะสามารถปกครองประเทศที่ยึดถือเรื่องความอาวุโสได้หรือไม่ แต่หลังจากนั้นไม่นาน คิมใช้อำนาจควบคุมเหล่านายพลอาวุโสให้อยู่ในบัญชาและกำจัดผู้ที่อาจเป็นเสี้ยนหนามขวางทางตน เช่น สั่งประหารชีวิต จาง ซอง แต็ก ผู้เป็นอาเขยและอดีตที่ปรึกษา เมื่อปี 2556 และยังอาจอยู่เบื้องหลังการสั่งลอบสังหาร คิม จอง นัม พี่ชายต่างมารดาในมาเลเซีย เมื่อปี 2560
ซู คิม นักวิเคราะห์นโยบายซึ่งเชี่ยวชาญด้านประเด็นคาบสมุทรเกาหลีจากบริษัทแรนด์ คอร์ป ระบุว่า คิม โย จองซึ่งใช้เวลาเกือบ 10 ปีในการเข้ามามีส่วนร่วมในกลไกรัฐโสมแดง ได้รับการฟูมฟักเพื่อรับบทผู้นำสูงสุดดีกว่าพี่ชายด้วยซ้ำ เธออาจสร้างความประหลาดใจให้กับใครก็ตามที่กังขาความสามารถของตนในการปกครองประเทศ
- เกิดและล่มสลายด้วยตระกูลคิม
“ผมไม่คิดว่าเธอจำเป็นต้องกังวลเรื่องการเป็นที่ยอมรับจากประชาชนเกาหลีเหนือในฐานะผู้นำ เพราะสืบสายเลือดมาจากตระกูลคิม” ซู คิม กล่าว “ชะตากรรมของเกาหลีเหนือจะเริ่มและล่มสลายไปพร้อมกับตระกูลคิม”
ส่วนลูกๆ ของคิม จอง อึน ที่อาจเป็นตัวเต็งทายาททางการเมืองก็ยังมีอายุน้อยหรือมีประสบการณ์น้อยเกินกว่าที่จะครองอำนาจในเปียงยาง เพราะบุตรคนโตของคิมเพิ่งอายุเพียง 10 ปีเท่านั้น และสื่อทางการเกาหลีเหนือก็ไม่เคยเอ่ยถึงลูกๆ ของผู้นำประเทศเลย
แต ยอง โฮ อดีตอุปทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงลอนดอนของอังกฤษ ซึ่งแปรพักตร์ไปอยู่เกาหลีใต้ กล่าวว่า ทายาททางการเมืองที่มีโอกาสสืบทอดต่อจาก คิม จอง อึน อีกคนหนึ่งคือ “คิม พย็อง อิล” วัย 65 ปี บุตรชายคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ของคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งประเทศซึ่งกลับประเทศเมื่อปีที่แล้ว หลังอยู่ในต่างประเทศ 40 ปีในฐานะนักการทูต
“กลุ่มที่ทำงานรับใช้คิม จอง อึน ต่างเป็นบริวารรุ่นแรกที่มีอายุ 60 ปีเศษ ถึง 80 ปีเศษ จึงทำให้มีช่องว่างระหว่างวัยอย่างน้อย 30 ปีกับคิม โย จอง และในสายตาของพวกเขา เธอเป็นแค่คนอ่อนหัด” อดีตอุปทูตเกาหลีเหนือเผย
อย่างไรก็ตาม คิม โย จอง ยังเป็นตัวเต็งทายาททางการเมืองที่โดดเด่นที่สุด
ช็อง ซ็อง-ชัง นักวิเคราะห์ของสถาบันเซจองในเกาหลีใต้ กล่าวว่า น้องสาวของคิม จอง อึน มีโอกาสกว่า 90% ที่จะได้สืบทอดอำนาจต่อจากพี่ชาย
“เธอมีสายเลือดขัตติยะ และเกาหลีเหนือก็เป็นเหมือนกับราชวงศ์”
ในช่วงไม่กี่ปีหลัง คิม โย จองอยู่ข้างกายพี่ชายตลอดในการประชุมใหญ่หลายเวทีกับบรรดาผู้นำโลก รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้นักสังเกตการณ์บางคนมองว่าเธอเป็น “หมายเลข 2” ของเกาหลีเหนือตัวจริงเสียงจริง
------------------------------------------------
ที่มา:
