คำต่อคำ! นายกฯ เปิดใจหลังนำ 'การบินไทย' ยื่นฟื้นฟูกิจการ

วันนี้ (19 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยส่งให้เข้าสู่ กระบวนการฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลาง เพื่อให้การบินไทยอยู่ภายใต้การคุ้มครองของศาล เพื่อฟื่้นฟูกิจการ

โดยได้กล่าวว่า..

"ผมขอแจ้งให้ทราบถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับการบินไทย มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ทั้งนี้ก็เป็นการตัดสินใจที่ผมรู้ว่า เราทุกคนจะรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนทุกคนได้อย่างไร

ในส่วนปัญหาในเรื่องนี้ ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว มีอยู่สามทางเลือกด้วยกัน คือ หาเงินให้การบินไทยดำเนินกรต่อไป ปล่อยให้เข้าสู่สถานการณ์ล้มละลาย และสาม เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของศาล

ที่ผ่านมา อาจจะมีปัญหาฟื้นฟูไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนักเพราะมีข้อกฎหมายอยู่หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรบ.แรงงาน และ พรบ.รัฐวิสาหกิจ

วันนี้ เราจำเป็นต้องหามาตรการที่เหมาะสม เราได้มีการพิจารณาร่วมกัน ในคนร. และ ครม. แล้ว เราทุกคนตัดสินใจว่า เราจะเลือกแนวทางปฏิบัติที่สาม ซึ่งเป็นทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และจะต้องมีอีกหลายขั้นตอน เพื่อแก้ปัญหาภายในองค์ เพื่อให้ฟื้นฟูขึ้นมา

ผมอยากให้พวกเราทุกคนได้กลับไปคิดดูว่า เรามีการบินไทยเพื่ออะไร ในช่วงที่ผ่านมา แล้วการบินไทย ควรเป็นองค์กรที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับคนไทย มีความสามารถในการแข่งขัน มีความเข้มแข็งในตัวเองได้อย่างไร

นี่คือพื้นฐานในการตัดสินใจของผม และนำสู่การพิจารณาใน ครม. ในวันนี้

ผมอยากให้พวกเราทุกคนได้กลับไปคิดดูว่า เรามีการบินไทยเพื่ออะไร ในช่วงที่ผ่านมา แล้วการบินไทย ควรเป็นองค์กรที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับคนไทย มีความสามารถในการแข่งขัน มีความเข้มแข็งในตัวเองได้อย่างไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :  นายกฯ ลั่น ‘นี่คือการตัดสินใจของผม’ ยื่นฟื้นฟูการบินไทย

วันนี้ ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องกล้าที่เราจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู โดยการยื่นขอเข้ากระบวนการต่อศาล ได้มีการหารือกันอย่างรัดกุมในรายละเอียดต่างๆ ทั้งหมด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ เป็นเวลาที่ประเทศไทยและทั้งโลกกำลังเผชิญวิกฤติ รายได้ของทุกคนกำลังหายไป จากหายนะจากโควิด เราก็ต้องรักษาเงินตราของประเทศไทยเอาไว้ เพื่อใช้ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาข้างหน้าต่อจากนี้

ในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่างๆ ที่กำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ ทางธุรกิจ หรือช่วยเหลือคนที่หาเช้ากินค่ำ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือประชาชนทั่วไปที่ทำงานหนักอยูในขณะนี้

ในช่วงเวลานี้ เป็นเวลาที่ประเทศไทยและทั้งโลกกำลังเผชิญวิกฤติ รายได้ของทุกคนกำลังหายไป จากหายนะจากโควิด เราก็ต้องรักษาเงินตราของประเทศไทยเอาไว้ เพื่อใช้ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาข้างหน้าต่อจากนี้

รัฐบาล ต้องมองอย่างรอบคอบในทุกมิติดังกล่าว

วันนี้ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในจุดที่สามารถควบคุมวิกฤติทางด้านสุขภาพได้ดีระดับหนึ่งแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆ ประเทศ แต่ปัญหาโควิดนั้น จะยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะปัญหาที่หนักกว่านั้น ที่รัฐบาลกำลังหาหนทางปฏิบัติในการแก้ปัญหาดังกล่าว คือ ปัญหาเรื่องการทำมาหากิน การหารายได้เลี้ยงปากท้องของประชาชน ที่ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบ และยังไม่รู้ว่า เมื่อไหร่จะสามารถทำมาหากิน สร้างรายได้ได้อย่างเคย นี่คือ วิกฤติทางเศรษฐกิจที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต

เราจะเป็นต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนในการใช้งบประมาณอีกเป็นจำนวนมาก หลังจากช่วงวิกฤติโควิด ต่อจากนั้นก็เพื่อให้ประชาชนอยู่รอดได้ สร้างชีวิต สร้างรายได้ ให้ทุกอย่างกลับมาสู่ภาวะปกติ และมีการสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้กลับคืนมา

ผมเองก็รู้สึกว่า การที่ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู โดยไม่ปล่อยให้การบินไทยไม่เข้าสู่สถานะล้มละลาย ซึ่งอาจจะทำให้พนักงานมากกว่า 2 หมื่นคนต้องถูกลอยแพ พวกเราทุกคนคงไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น

รัฐบาลยืนยันว่า จะสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่อไปได้ แม้ว่าจะไม่ได้รับเงินจากรัฐบาล จึงขอให้การบินไทยเข้าไปอยู่ภายใต้การคุ้มครองของศาล และเข้าสูกระบวนการฟื้นฟูภายใต้การกำกับของศาล ซึ่งศาลจะพิจารณาแต่งตั้งมืออาชีพเข้ามาบริหาร ฟื้นฟูกิจการการบินไทย

ผมเอง และพี่น้องประชาชนทุกคน ก็คงคาดหวังเช่นเดียวกันว่า เมื่อมีมืออาชีพเข้ามาช่วยบริหารจัดการแล้ว การบินไทยจะสามารถกลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติที่คนไทยเคยภาคภูมิใจ และ กลับมาเป็นองค์กรที่ช่วยสร้างความรุ่งเรืองให้กับประเทศไทยได้

ผมเอง และพี่น้องประชาชนทุกคน ก็คงคาดหวังเช่นเดียวกันว่า เมื่อมีมืออาชีพเข้ามาช่วยบริหารจัดการแล้ว การบินไทยจะสามารถกลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติที่คนไทยเคยภาคภูมิใจ และ กลับมาเป็นองค์กรที่ช่วยสร้างความรุ่งเรืองให้กับประเทศไทยได้

ด้วยวิธีการเช่นนี้ เป็นวิธีการเดียวที่การบินไทยจะยังคงสามารถประกอบกิจการต่อได้ พนักงานการบินไทยก็จะมีงานทำต่อไป ในขณะเดียวกัน การปรับโครงสร้างของการบินไทยในหลายๆ อย่างที่ควรจะทำสำเร็จไปตั้งนานแล้ว ก็จะเกิดขึ้นได้ด้วย

นั่นคือการตัดสินใจของผม และเป็นทิศทางที่รัฐบาลจะยึดมั่นในการปฏิบัติกับกรณีของการบินไทย ส่วนในรายละเอียดต่างๆ ก็จะเป็นไปตามที่ศาลกำหนด และจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป"