รัฐเล็งปลดล็อคท่องเที่ยว ก.ค.นี้ แจก 'คูปอง' ลดค่าที่พัก 50%
สศช. แจงกรอบเงินกู้ 4 แสนล้าน ปลุกเศรษฐกิจ กระตุ้นการบริโภค-ท่องเที่ยว เผยรัฐอาจจัดแพ็คเกจไทยเที่ยวไทย ออกคูปองช่วยลดค่าที่พัก 40-50% รับปลดล็อกการท่องเที่ยว ก.ค.นี้
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า แนวทางเสนอโครงการภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ วงเงิน 4 แสนล้านบาทจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 มุ่งหวังให้มีเม็ดเงินลงระบบเศรษฐกิจช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือนจะหมดลงในเดือน มิ.ย.นี้
ขณะที่วงเงินงบประมาณปี 2564 จะเริ่มเบิกจ่ายได้วันที่ 1 ต.ค.จึงต้องมีเงินลงไปให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงนี้ เช่น การมุ่งไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ และการเกษตรที่ใช้นวัตกรรมเพิ่มคุณภาพการผลิต โดยโครงการที่เสนอเข้ามาคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการฯ จะดูความพร้อมของโครงการที่เบิกจ่ายและทำโครงการเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ และดูการจ้างงานในชุมชนท้องถิ่นในส่วนโครงการโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน
- แจกคูปองลดค่าที่พัก40-50%
สำหรับการฟื้นเศรษฐกิจในประเทศหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิด สศช. มองว่าจะได้ผลเร็วที่สุด คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศเนื่องจากเครื่องยนต์เศรษฐกิจต่างๆดับเกือบหมด โดยในเดือน ก.ค.ซึ่งจะเริ่มมีการปลดล็อกให้มีการท่องเที่ยวในประเทศได้ มาตรการที่ภาครัฐจะออกมาเพื่อช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศโดยอาจให้มีมาตรการลดค่าที่พักให้กับคนที่เดินทางท่องเที่ยว 40 - 50%
โดยส่วนที่ลดให้ภาครัฐจะสนับสนุนเงินให้ในรูปแบบคูปอง โดยใช้ข้อมูลจากฐานภาษีมาเป็นส่วนลดให้เหมือนกับมาตรการไทยเที่ยวไทยที่เคยทำมาแล้วในส่วนนี้
ส่วนมาตรการกระตุ้นการบริโภคอื่นๆเช่นมาตรการช็อปช่วยชาติหรือมาตรการชิมช็อปใช้ ที่ภาคเอกชนมีการเสนอมาจะต้องมาพิจารณาดูความเหมาะสมของโครงการอีกครั้ง
สำหรับกรอบการทำงานและระยะเวลาในการอนุมัติโครงการคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการฯจะเริ่มเปิดรับแนวคิดโครงการจากหน่วยงานที่เสนอเข้ามาในวันที่ 5 มิ.ย. จากนั้นในวันที่ 5-15 มิ.ย.คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการจะเชิญหน่วยงานเข้ามาประชุมหารือเกี่ยวกับการจัดทำรายละเอียดโครงการ จากนั้นในวันที่ 15 มิ.ย.ให้หน่วยงานจัดส่งข้อเสนอโดยผ่านความเห็นชอบของรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัด คณะอนุกรรมการกลั่นกรองจะพิจารณาโครงการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 22 มิ.ย.และเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองชุดใหญ่พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 2 ก.ค. และเสนอให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบวันที่ 7 ก.ค.63
- เคาะ ‘4แผนงาน’ ปลุกเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2563 ได้อนุมัติกรอบแผนงานและโครงการที่จะอนุมัติภายใต้วงเงิน 4 แสนล้านบาทไว้ 4 กลุ่มแผนงานประกอบได้ด้วย
1.แผนงานโครงการลงทุนและกิจกรรมการพัฒนาที่สามารถพลิกฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพิ่มศักยภาพ และยกระดับการผลิต และการบริการในสาขาเศรษฐกิจ ที่สำคัญของประเทศ โดยครอบคลุมภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การค้าและการลงทุน ท่องเที่ยวและบริการ
2.แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ผ่านการดำเนินโครงการหรือกิจกรรม เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยส่งเสริมตลาดสำหรับผลผลิต และผลิตภัณฑ์ของธุรกิจชุมชนที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวหรือภาคบริการอื่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน การจัดหาปัจจัยการผลิตและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และชุมชน
3.แผนงานหรือโครงการเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน รวมถึงการลงทุนต่างๆ ของภาคเอกชน เพื่อให้สภาวะการบริโภคและการลงทุนกลับเข้าสู่ ระดับปกติได้โดยเร็ว เช่น โครงการช็อปช่วยชาติและการกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยรัฐสนับสนุนเงินบางส่วน
4.แผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และสนับสนุนกระบวนการผลิตเพื่อการพัฒนาประเทศในระยะต่อไป
- ททท.ถกสศค.ฟื้นฟูท่องเที่ยววันนี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า วันนี้ (26 พ.ค.) เวลา 9.30 น.ที่กระทรวงการคลัง ททท.จะหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ถึงแนวทางการจัดทำข้อเสนอโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน วงเงิน 4 แสนล้านบาท
โดยจะมีแนวทางเกี่ยวกับฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลายมาตรการ อาทิ การสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อทำโปรโมชั่นลดราคากระตุ้นให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางในประเทศ เช่น การแจกคูปองท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการอื่นๆ ซึ่งจะจัดทำออกมาเป็นแพ็คเกจใหญ่ฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในปีนี้
ผู้ว่าการ ททท.กล่าวเพิ่มเติมว่า วานนี้ (25 พ.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกันเปิดตัวโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA โดยตราสัญลักษณ์มีอายุประมาณ 2 ปี ล่าสุดมียอดผู้ประกอบการท่องเที่ยวสมัครรับการตรวจสอบเพื่อรับตราสัญลักษณ์ SHA จำนวน 1,442 ราย หลังจากเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา