ทั่วโลกเริ่มคลายล็อกดาวน์

ทั่วโลกเริ่มคลายล็อกดาวน์

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง แม้ในช่วงเช้าจะมีแรงขายทำกำไรออกมา

อย่างไรก็ดี ดัชนีพลิกปิดบวกในช่วงบ่าย ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ภายในประเทศกำลังจับตาผลการพิจารณาปลดล็อกเฟส 3 ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,345.11 จุด (+9.02 จุด) Volume 7.9 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,823.08 ลบ. TFEX Net +1,278 สัญญา ตราสารหนี้ -1,594 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 553.16 จุด +2.21% ขานรับความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐและประเทศอื่นๆทั่วโลกจะฟื้นตัวหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร สายการบินและเรือสำราญพุ่งขึ้น

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.54 ดอลลาร์ -4.5% ปิดที่ 32.81 ดอลลาร์/บาร์เรล วิตกว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก และรัสเซียอาจจะไม่ปรับลดการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงในเดือนก.ค.

+สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่แล้ว ดอกเบี้ยต่ำหนุนตลาด

+คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เสนอตั้งกองทุนฟื้นฟูวงเงิน7.5 แสนล้านยูโรเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจยูโรปที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19

-สหรัฐอาจลดระดับความสัมพันธ์การค้ากับฮ่องกงเนื่องจากไม่มีความเป็นอิสระจากจีน

-MSCI rebalance ลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยจาก 2.39% เหลือ 2.36%

+รมว.คลังชี้แจงพ.ร.ก.กู้เงินอยู่ในกรอบกม.คาดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สิ้นก.ย.64 อยู่ที่ 57.96% จากเพดาน 60%

-สศอ.เผยโควิด-19 ฉุดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เม.ย. หดตัวต่ำสุดรอบ 101 เดือน

+ทองคำปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรในสินทรัพย์ปลอดภัย

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตอ่อนตัว 9.75 จุด +0.34% เช้าเปิด +1.41 จุด

+ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดเพิ่มขึ้น 148.06 จุด +0.70% เช้าเปิด +193.67 จุด

 

*จับตาสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. GDP ไตรมาส 1/2563 และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้นักลงทุนมีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัว ส่วนปัจจัยในประเทศยังติดตามผลการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ พิจารณาผ่อนคลายเฟส 3 คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,335-1,365 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

THANI (Bloomberg Consensus 3.93 มุมมอง “Neutral”)

  • 1Q63 มีกำไรสุทธิ 465 ล้านบาท ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ภายใต้มาตรฐานบัญชี TFRS9 เท่ากับ 140 ล้านบาท ณ สิ้น 1Q63 ลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อและเช่าทางการเงินซึ่งมีสัดส่วน 98% ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น 3.1%YoY แต่ลดลง 0.73%YTD
  • บริษัทดำเนินการปรับโครงสร้างทุนโดยประกาศเพิ่มทุนจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) อัตราส่วน 2 เดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 1 บาท (dilution effect 33%) และมีแผนออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาทเพื่อเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อระยะยาว คาดบริษัทจะได้เงินจากการเพิ่มทุนราว 1.89 พันล้านบาท หลังเพิ่มทุนผู้บริหารคาดจะมี D/E ratio ลดเหลือราว 4 – 5 เท่าจาก 5.7 เท่า ณ ปลายปี 62 ทั้งนี้ผู้บริหารชี้แจงว่าการเพิ่มทุนไม่ได้เกิดจากปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่เป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงิน
  • ผู้บริหารคาดว่าหลังคลาย lockdown การปล่อยสินเชื่อจะกลับมาเติบโตดีในช่วง 2H63 โดยเฉพาะสินเชื่อรถบรรทุกที่เป็นส่วนหนึ่งของโลจิสติกส์

ความเห็น ราคาหุ้นหลังประกาศเพิ่มทุน ลดลง 30%YTD ซื้อขายที่ PBV 2.05 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 2.54 เท่า และมี yield 7.8% สูงน่าสนใจ ฝ่ายวิจัยคาดว่า TCAP ที่ถือหุ้นผ่านบจ. ธนชาต เอสพีวี 1 สัดส่วน 55.47% จะเตรียมพร้อมเพิ่มทุนเกินสิทธิเพื่อใช้เป็นฐานการทำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเช่าการเงินจากที่บริษัทเปิดเผยแผนลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ ปลายงวด 1Q63 ยังมีเงินสดคงเหลือกว่า 10,000 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยมีมุมมอง “Neutral” แนะนำใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนซึ่งจะทำให้ต้นทุนเฉลี่ยลดลง 25% ทั้งนี้ ต้องรอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุน กำหนด XM 9 มิ.ย. วันประชุม 10 ก.ค.

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่จะเข้าคำนวณ MSCI Global Standard (AWC BAM KTC) มีผล 29 พ.ค. 
  • หุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ดี (WICE TASCO CPF)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย (BAM MTC SAWAD SINGER)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากรัฐออกแพคเกจกระตุ้นเที่ยวในประเทศ (ERW CENTEL AOT AAV BA)

หุ้นมีข่าว   

(+/-) BGRIM (Bloomberg Consensus 50.85 บาท) ผ่านฉลุย! บอร์ดกกพ.ไฟเขียวใบอนุญาตนำเข้า LNG 6.5 แสนตันต่อปี เริ่มทยอยนำเข้าใช้ในโรงไฟฟ้า SPP ตั้งแต่ปี 65ปรียนาถ” ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% จากปีก่อน โชว์เงินสดล้นมือ 2.1 หมื่นล้านบาท ยันไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) KOOL (Bloomberg Consensus - บาท)   ส่งซิกไตรมาส 2 ดีสุดของปี ชูเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ คาดครึ่งปีหลังจะเริ่มมีออเดอร์จากโซนซีกโลกใต้มากขึ้น มั่นใจรายได้รวมปี 63 โต ชู 3 กลยุทธ์หลัก เน้นขายออนไลน์-เพิ่มสินค้าสุขภาพ-สร้างตัวแทนหลักเพื่อการส่งออกที่ต่อเนื่อง”  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) TU (ราคาเหมาะสม 15.42 บาท) แจ้งโรงงานยูโรเปียน ซีฟู้ด อินเวสต์เมนต์ โปรตุเกส ยังเปิดดำเนินงานปกติ และปฏิบัติภายใต้คำแนะนำตามมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาด แม้พบพนักงาน 1 คนติดเชื้อโควิด-19  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) CRC (Bloomberg Consensus - บาท)   เผยส่งบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้น จำนวน 5,757,500 หุ้น คิดเป็น 49% ใน "เซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท" จาก Family Mart Co., Ltd (JFM) ผู้ร่วมลงทุนสัญชาติญี่ปุ่นที่ส่งผลให้มีอำนาจในการบริหาร แบรนด์ "Family Mart" อย่างเต็มรูปแบบ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BCPG (Bloomberg Consensus 21.23 บาท) โบรกส่องผลงานเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 2/2563 จ่อรับรู้รายได้ขายไฟโครงการ Nam San 3A และโครงการ Nam San 3B เต็มไตรมาส จับตาครึ่งปีหลังโตแรง รับไฮซีซันของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว แนะซื้อ เคาะเป้าหมาย 20.90 บาท คาดเงินปันผลทั้งปี 2563 ที่ 0.65 บาทต่อหุ้น หรือให้ผลตอบแทนที่ 3.7%  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) AAV (Bloomberg Consensus 1.88 บาท)  เตรียมลุ้นภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ-หลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 โบรกมองเป็นโอกาสฟื้นธุรกิจและผลการดำเนินงานคาดว่าปี 2564 จะพลิกกลับมามีกำไร (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MCS (Bloomberg Consensus - บาท)  งานใหม่ไหลเข้าไม่หยุด ลุ้นเดือนมิถุนายนรับงานใหม่เพิ่มอีก 1 หมื่นตัน แย้มปีนี้คาดส่งมอบงานได้ราว 4.5-5 หมื่นตัน มั่นใจครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก หนุนรายได้ปีนี้แตะ 4 พันล้านบาท ฟากโบรกมองกำไรจะเร่งตัวทุกไตรมาส อัพไซด์เปิดกว้างจากการส่งมอบงานต่อเนื่อง แนะทยอยซื้อสะสม เป้า 14.40 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+/-) THAI (Bloomberg Consensus 2.70 บาท)  ศาลรับ THAI ฟื้นฟู ทำให้บริษัทผิดนัดชำระหนี้อัตโนมัติ ด้านทริสลดเรตติ้งสู่ D แล้ว เปิดผลกระทบชัดๆ ใครโดนบ้างทั้งกลุ่มผู้ถือหุ้น หุ้นกู้โดยตรง AEC ต้องหยุดดำเนินการ ขณะที่ บลจ.ลด NAV อัตโนมัติ ด้าน KTB ต้องตั้งสำรอง 6 พันล้านบาท เตือนนักลงทุนอย่าเดิมพันหลังฟื้นฟู เหตุส่วนใหญ่ต้องลดทุน และเพิ่มทุนใหม่ หุ้นที่ถืออยู่อาจจะด้อยมูลค่ามาก (ที่มา ทันหุ้น) ตลท.ขึ้นเครื่องหมาย C หุ้น THAI ตั้งแต่ 29 พ.ค.