ถึงเวลาของหุ้นกลุ่มธนาคาร

ถึงเวลาของหุ้นกลุ่มธนาคาร

หุ้นโลกได้แรงหนุนจากการเปิดเศรษฐกิจและแผนกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป

หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นหลังเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ทั้ง 50 รัฐฯ ส่งผลให้มีแรงเก็งกำไรในกิจกรรมเศรษฐกิจที่จะฟื้นตามมาบวกต่อกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนหมุนการเก็งกำไปยังหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักจากโควิดที่ผ่านมา ได้แก่ สายการบิน เรือสำราญ ขณะที่หุ้นยุโรปปรับขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เผิดเผยเพิ่มเติมเกียวกับรายละเอียดของกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (2/3 เป็นเงินให้เปล่า ขณะที่ 1/3 เป็นเงินกู้) ซึ่งอิตาลีและสเปนจะได้รับความช่วยเหลือมากที่สุด อย่างไรก็ตามยังมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับรายละเอียด โดยจะมีการลงคะแนนเกี่ยวกับแผนดังกล่าว 27 มิ.ย.อีกครั้ง

ติดตามการผ่อนคลายระยะที่ 3 โดยศบค.ชุดใหญ่วันศุกร์นี้ (29 พ.ค.) ทั้งนี้มีแนวโน้มที่จะมีการลดระยะเวลาห้ามออกนอกเคหะสถาน (เคอร์ฟิว) ให้สั้นลง รวมถึงผ่อนคลายให้ธุรกิจที่มีความเสี่ยงบางส่วนสามารถเปิดดำเนินการได้เพิ่มเติม ซึ่งธุรกิจโรงภาพยนต์, บริการด้านสุขภาพ อาทิ สปา รวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับกีฬฯ มีโอกาสได้รับการผ่อนปรนในรอบนี้ อย่างไรก็ตามการเก็งกำไรหุ้น MAJOR, SPA และกลุ่มโรงแรม รวมถึงสายการบิน อาจต้องระวังความผันผวนจากผลประกอบการ รวมถึงสถานะการเงินของแต่ละบริษัทที่ทำให้ความเสี่ยงของหุ้นแต่ละตัวอาจมีแตกต่างกัน

มีโอกาสเห็นการเก็งกำไรโยกเข้ากลุ่มธนาคาร หลังหุ้นธนาคารเป็นกลุ่มที่แย่กว่าตลาด (underperform) ที่สุด โดยปรับลดลง 35% YTD ขณะที่ Valuation ซื้อขายในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีมาก นอกจากนี้สินเชื่อของกลุ่มมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการสภาพคล่องเนื่องจากวิกฤติโควิดและการสำรองวงเงินเพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้/ตราสารหนี้ จากสถานการณ์ความไม่เชื่อมั่นที่เกิดขึ้น ขณะที่ผลกระทบจากหนี้เสียถูกบรรเทาเบาบางลงไปจากมาตรการของธปท.ที่อนุโลมเกี่ยวกับการตั้งสำรองและการประเมินมูลค่ายุติธรรม โดยเรามอง BBL และ KBANK น่าสนใจที่สุด

เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยประเด็นที่น่าสนใจได้แก่ 1) กลุ่มที่มีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ดี/ดีกว่าอุตสาหกรรม ได้แก่ IVL, SCC, STA, TIP, VRANDA 2) หุ้นกำไรมั่นคง (defensive) GPSC, BCPG, RATCH, BCH, CHG, SSP, SUPER 3) กลุ่มประกันภัย TIP และ THRE 4) กลุ่มการเงินที่ยังไม่แพง BFIT, AMANAH 5)หุ้นเข้า MSCI (29 พ.ค.) ได้แก่ AWC, BAM, KTC 5) กลุ่มธนาคาร ชอบ BBL และ KBANK ทั้งนี้การเก็งกำไรในกรอบ 1300-1400 จุด ควรคุมความเสี่ยงด้วยการตั้งขาดทุนทุกครั้ง

ภาพรวมกลยุทธ์ โมเมนตัมการเก็งกำไรยังเป็นบวก และมีโอกาสเหวี่ยงขึ้น 1360 จุด แต่ต้องเริ่มระวังการเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวในระยะสั้นที่เริ่มปรับขึ้นเร็วเกินไป หรือเกินกว่าระดับการฟื้นตัวจริงทางเศรษฐกิจ  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  BBL, CPF*, THRE*, SSP*

แนวรับ 1,334 / แนวต้าน : 1,350-1,360 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

ความตึงเครียดจีน สหรัฐฯ สหรัฐฯ ประกาศรับรองว่า ฮ่องกงไม่ได้เป็นอิสระทางการเมืองจากจีนอีกต่อไป และขู่ถอนสถานะทางการค้าพิเศษที่สหรัฐฯ มอบให้ฮ่องกง เนื่องจากไม่มีบุคคลที่สามารถยืนยันได้ว่าฮ่องกงยังคงมีเอกราชทางการเมืองจากจีนอยู่

TH MPI หด -17.21% yoy – สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน เม.ย. อยู่ที่ 79.04 หดตัว 17.21% yoy ด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 51.87% ยอด 4 เดือนแรกของปี 63 หด 8.8% อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 63.11%

กสทช.ขยายเวลาชำระไลเซนต์ ปี 63 กลุ่มทีวีดิจิทัล-โทรคมนาคม โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นบริษัทที่มีรายได้เกินกว่า 1 พันล้านบาทขึ้นไป จะได้รับการขยายเวลาชำระค่าธรรมเนียม 50% โดยก้อนแรกให้ชำระภายในกลางเดือนมิ.ย. นี้ และอีก 50% ให้ขยายไปชำระในวันที่ 15 ส.ค.63 กลุ่มที่สองเป็นบริษัทที่มีรายได้ไม่เกิน 1 พันล้านบาท ให้สิทธิขยายเวลาชำระค่าใบอนุญาตได้ 100% ไปจ่ายในวันที่ 15 ส.ค. 63

ประเด็นติดตาม: 28 พ.ค. – US GDP 1Q20/ 1 มิ.. – US PMI/ 4 มิ.. – ECB meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)